ยางรถยนต์ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพการขับขี่ ดังนั้นการดูแลรักษายางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นการตรวจเช็กสภาพยาง หรือการเติมลมยางให้เหมาะสม และอีกหนึ่งการบำรุงรักษาสำคัญที่ขาดไปไม่ได้เลยคือ การสลับยาง ถ่วงล้อในบทความนี้ดันลอปได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการสลับยาง ถ่วงล้อ มาให้ผู้ใช้รถได้ทำความเข้าใจมากยิ่งขึ้น ทั้งในประเด็นที่ว่าการสลับยาง ถ่วงล้อคืออะไร ควรดำเนินการบ่อยเพียงใด วิธีการสลับยางมีกี่ประเภท และจำเป็นต้องถ่วงล้อทุกครั้งหลังจากสลับยางหรือไม่
การสลับยาง ถ่วงล้อคืออะไร?
การสลับยาง
คือการเปลี่ยนตำแหน่งยางของรถยนต์ ให้สลับไปอยู่ในตำแหน่งอื่นๆ สาเหตุที่ต้องทำแบบนี้ก็เพราะว่า ยางแต่ละเส้นมีการสึกหรอที่ไม่เท่ากัน โดยทั่วไป ยางคู่หน้าจะสึกหรอเร็วกว่ายางคู่หลัง เพราะต้องคอยรับแรงเสียดทานจากการเลี้ยวและการเบรกมากกว่า ทำให้ยางคู่หลังมักสึกช้ากว่า การสลับยางจึงสามารถช่วยให้ยางทั้งสี่เส้นมีการสึกสม่ำเสมอกัน ช่วยยืดอายุการใช้งานของยางให้ยาวนานขึ้น และที่สำคัญคือช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนยางใหม่ได้อีกด้วย
การถ่วงล้อ
คือการปรับสมดุลน้ำหนักของล้อและยางให้กระจายเท่ากันทั้งวงล้อ เนื่องจากว่าเมื่อยางถูกใช้งานไปสักระยะหนึ่ง อาจเกิดการสึกหรอที่ไม่เท่ากัน หรือเมื่อมีการเปลี่ยนยาง สลับยางใหม่อาจทำให้น้ำหนักรอบวงล้อเสียสมดุล จนเกิดอาการที่สังเกตได้ระหว่างขับขี่เช่น พวงมาลัยสั่น หรือรถสั่นสะเทือน โดยเฉพาะเวลาขับขี่ด้วยความเร็วสูง ซึ่งการถ่วงล้อสามารถช่วยลดปัญหาการสั่นสะเทือน ทำให้การขับขี่นุ่มนวลขึ้น และยังช่วยถนอมช่วงล่างของรถยนต์ให้ใช้งานได้นานขึ้นอีกด้วย
ควรสลับยาง ถ่วงล้อเมื่อไหร่?
โดยทั่วไป ผู้ผลิตรถยนต์และยางรถยนต์ส่วนใหญ่แนะนำให้สลับยาง ถ่วงล้อทุกๆ 6 เดือน หรือทุก 10,000 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามความถี่ในการสลับยาง ถ่วงล้อขึ้นอยู่กับพฤติกรรมในการใช้รถด้วยเช่นกัน หากชอบขับรถเร็ว เดินทางไกลบ่อย ขนของหนักเป็นประจำ หรือขับบนถนนขรุขระบ่อยๆ สามารถส่งผลให้ยางสึกหรอเร็วขึ้นได้ อาจจำเป็นต้องตรวจเช็กและพิจารณาการสลับยาง ถ่วงล้อบ่อยขึ้น เพื่อช่วยให้ยางทั้งสี่เส้นมีการสึกหรอที่เท่ากัน และถือเป็นการตรวจเช็กสภาพยางให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ
การสลับยางมีกี่วิธี?
การสลับยางมีหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับประเภทของรถยนต์และยางรถยนต์ที่ใช้ โดยรูปแบบที่นิยมและเป็นที่รู้จักกันดีมีดังนี้
สำหรับรถขับเคลื่อนล้อหน้า (2WD)
จะเป็นการสลับยางแนวทแยง โดยนำยางด้านหน้าทั้ง 2 เส้น สลับไปอยู่ด้านหลังในข้างเดียวกัน และเปลี่ยนยางคู่หลังไปอยู่ด้านหน้าโดยสลับฝั่งกันดังภาพตัวอย่างด้านบน
สำหรับรถขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD)
ทำการสลับยางโดยเปลี่ยนยางคู่หลังมาอยู่ด้านหน้าในฝั่งเดียวกัน และเปลี่ยนยางคู่หน้าไปอยู่ด้านหลังโดยสลับฝั่งกันดังภาพด้านบน
สำหรับรถรถยนต์ที่ใช้ลายดอกยางแบบทิศทางเดียว
ยางที่มีลายดอกยางทิศทางเดียว จะมีลูกศรบนแก้มยางบอกทิศทางการหมุน (Rotation) ซึ่งกำหนดไว้ว่าต้องใส่ยางตามทิศทางไหนเพื่อความถูกต้องดังภาพด้านบน ซึ่งสามารถทำการสลับยางได้โดย เปลี่ยนตำแหน่งยางหน้าซ้ายกับยางหลังซ้าย และสลับยางหน้าขวากับยางหลังขวาในฝั่งเดียวกัน
สำหรับรถรถยนต์ที่มีขนาดยางด้านหน้าและด้านหลังไม่เท่ากัน
ควรสลับยางระหว่างคู่ตนเองคือ ยางคู่หน้าสลับตำแหน่งซ้ายขวากัน ส่วนยางคู่หลังก็สลับฝั่งซ้ายขวากัน ดังภาพประกอบด้านบน
จำเป็นต้องถ่วงล้อทุกครั้ง หลังสลับยางไหม?
เป็นคำถามที่ผู้ใช้รถสงสัยกันค่อนข้างมากว่า หลังจากสลับยางแล้วต้องถ่วงล้อด้วยหรือเปล่า คำตอบคือ ควรถ่วงล้อทุกครั้งหลังจากทำการสลับยาง แม้ว่ายางแต่ละเส้นจะเคยผ่านการถ่วงล้อมาแล้วในตำแหน่งเดิม แต่เมื่อมีการสลับยาง แรงกดและน้ำหนักที่ยางต้องรับในตำแหน่งใหม่ก็จะเปลี่ยนไป ซึ่งอาจทำให้สมดุลของล้อเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน ดังนั้นการถ่วงล้อใหม่หลังจากสลับยางทุกครั้งจะช่วยให้ยางสมดุล ลดการสั่นสะเทือน และทำให้การขับขี่ราบรื่นปลอดภัย
สรุปได้ว่าการสลับยาง ถ่วงล้อ เป็นส่วนสำคัญในการช่วยบำรุงรักษารถยนต์ให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะการหมั่นดูแลสลับยาง ถ่วงล้อตามระยะเวลาที่กำหนด จะช่วยให้ยางมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนยางใหม่ และที่สำคัญที่สุดคือ เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
หากผู้ขับขี่ท่านใดไม่แน่ใจว่าถึงเวลาสลับยาง ถ่วงล้อแล้วหรือยัง ดันลอปขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือแวะมาที่ ดันลอปช็อป ใกล้บ้านเพื่อเข้ารับการตรวจเช็กสภาพยางรถยนต์ได้เลย