NEWS & PROMOTION

ข่าวสารและโปรโมชั่น

เช็กด่วน! วิธีสังเกตลมยางอ่อนด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ

ลมยางอ่อน

ดันลอปจะมาเผยเคล็ดลับเด็ดๆ ให้คุณได้รู้กันว่า ไม่ต้องพึ่งปั๊มลมหรืออู่รถก็สามารถเช็กได้เองง่ายๆ ที่บ้านเลย! แค่สังเกตสัญญาณเล็กๆ น้อยๆ บนรถของเรา ก็รู้ได้เลยว่ายางรถเกิดอาการลมยางอ่อนหรือเปล่า! อยากรู้แล้วใช่ไหมว่ามีวิธีไหนบ้าง? ตามมาดูกันเลย!

 

ทำไมต้องใส่ใจเรื่องลมยาง?

หลายคนอาจจะมองข้ามความสำคัญของการตรวจสอบลมยาง แต่รู้หรือไม่ว่า ลมยางที่ไม่ถูกต้องนั้นส่งผลกระทบต่อรถของเรามากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย การสิ้นเปลืองน้ำมัน หรืออายุการใช้งานของยางรถยนต์ การที่ลมยางอ่อนเกินไปจะทำให้ยางสึกเร็ว เกิดความร้อนสูง และเสี่ยงต่อการระเบิดขณะขับขี่ นอกจากนี้ ยังทำให้การควบคุมรถทำได้ยากขึ้น พวงมาลัยหนัก และสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้น การตรวจสอบลมยางเป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

 

  ลมยางหน้าอ่อนจะมีผลต่อการขับขี่อย่างไร 

ลมยางหน้าอ่อนจะมีผลต่อการขับขี่อย่างไรบ้าง?

หลายคนอาจจะคิดว่า แค่ลมยางอ่อนนิดหน่อยไม่น่าจะส่งผลอะไรมากมาย แต่ขอบอกเลยว่า ผลเสียที่ตามมานั้นเยอะกว่าที่คิดแน่นอนครับ

  • รถเสียการทรงตัวง่าย : เวลาเราเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน รถจะรู้สึกเหมือนลื่นไหล ไม่ค่อยเกาะถนน อาจทำให้เกิดอันตรายได้ง่ายๆ
  • กินน้ำมันมากขึ้น : ลมยางอ่อนจะทำให้ยางต้องทำงานหนักขึ้น ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้นตามไปด้วย
  • ยางสึกเร็ว : ยางที่ต้องรับน้ำหนักมากเกินไปจะทำให้ดอกยางสึกเร็วกว่าปกติ และอาจทำให้ยางระเบิดได้ในที่สุด
  • เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ : การที่รถเสียการทรงตัวและยางสึกเร็ว จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้มากขึ้น

 

วิธีตรวจสอบลมยางรถยนต์

วิธีตรวจสอบลมยางรถยนต์ด้วยตัวเองง่ายๆ ไม่ต้องใช้เครื่องมือ

1.สังเกตการทรงตัวของรถ

  • รถส่าย : เมื่อขับรถแล้วรู้สึกว่ารถส่ายไปมา หรือไม่นิ่ง อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าลมยางอ่อน โดยเฉพาะเมื่อเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลน
  • รถดึงไปด้านใดด้านหนึ่ง : ถ้ารู้สึกว่ารถมีอาการดึงไปด้านใดด้านหนึ่งขณะขับขี่ แสดงว่าลมยางแต่ละล้ออาจมีความดันไม่เท่ากัน
  • รถยวบเมื่อเหยียบเบรก : เมื่อเหยียบเบรกแล้วรู้สึกว่ารถยวบหรือจมลงไป อาจเป็นเพราะลมยางอ่อน ทำให้ระบบเบรกทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

2. สังเกตเสียงที่ผิดปกติ

  • เสียงดังกุกกัก : ถ้าได้ยินเสียงดังกุกกักจากล้อขณะขับขี่ โดยเฉพาะเมื่อผ่านพื้นผิวที่ไม่เรียบ อาจเป็นเพราะโครงสร้างภายในยางเสียหายจากการที่ลมยางอ่อนเกินไป
  • เสียงร้องของยาง : เมื่อขับรถด้วยความเร็วสูง อาจได้ยินเสียงร้องของยาง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ายางกำลังเสียดสีกับพื้นถนนมากเกินไป เนื่องจากลมยางอ่อน

3. สังเกตรอยสึกของหน้ายาง

  • รอยสึกไม่สม่ำเสมอ : ถ้าสังเกตเห็นรอยสึกของหน้ายางที่ไม่สม่ำเสมอ เช่น สึกด้านในหรือด้านนอกมากเกินไป อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าลมยางไม่เท่ากัน หรือมีปัญหาที่ระบบช่วงล่าง
  • รอยสึกตรงกลาง : ถ้าหน้ายางสึกตรงกลางมากเกินไป อาจเป็นเพราะลมยางแข็งเกินไป ในขณะที่ถ้าหน้ายางสึกที่ขอบ อาจเป็นเพราะลมยางอ่อนเกินไป

4. สังเกตแก้มยาง

  • แก้มยางบวม : ถ้าสังเกตเห็นว่าแก้มยางบวมหรือป่องออกมา อาจเป็นเพราะลมยางอ่อนเกินไป ทำให้แก้มยางต้องรับน้ำหนักมากขึ้น

5. สังเกตความรู้สึกขณะขับขี่

  • พวงมาลัยหนัก : ถ้ารู้สึกว่าพวงมาลัยหนักกว่าปกติ อาจเป็นเพราะลมยางอ่อน ทำให้การควบคุมรถทำได้ยากขึ้น
  • รถไม่เกาะถนน : ถ้ารู้สึกว่ารถไม่เกาะถนน หรือลื่นง่าย อาจเป็นเพราะลมยางอ่อน ทำให้หน้าสัมผัสระหว่างยางกับพื้นถนนลดลง

 

วิธีเติมลมยางรถยนต์

วิธีเติมลมยางรถยนต์อย่างถูกต้อง

  • จอดรถในที่ปลอดภัย มีแสงสว่างเพียงพอ เช่น ปั๊มน้ำมัน หรือบริเวณที่รถจอดนิ่ง
  • ดูค่าลมยางที่เหมาะสมสำหรับรถของเรา โดยจะระบุไว้ในคู่มือรถยนต์ หรือที่ประตูฝั่งคนขับ
  • ค่อยๆ ถอดฝาครอบวาล์วลมยางออกทีละล้อ
  • ประกบหัวเติมลมเข้ากับวาล์วลมยางให้แน่นหนา
  • เปิดเครื่องเติมลม และค่อยๆ เติมลมจนถึงค่าที่ต้องการ
  • เมื่อถึงค่าที่ต้องการแล้ว ให้ปิดเครื่องเติมลม และถอดหัวเติมลมออก
  • ใส่ฝาครอบวาล์วลมยางกลับเข้าที่เดิม

 

เคล็ดลับเพิ่มเติม : วิธีเติมลมยางรถยนต์ที่ถูกต้องควรเติมลมยางเมื่อยางเย็น เช่น ตอนเช้าก่อนออกเดินทาง เพราะอุณหภูมิของยางจะส่งผลต่อค่าความดันลมยาง หากต้องการอ่านขั้นตอนหรือวิธีเติมลมยางรถเก๋งอย่างละเอียด สามารถอ่านต่อได้ที่บทความ เติมลมยางรถเก๋งต้องเติมเท่าไหร่ ได้เลย

 

เคล็ดลับการดูแลรักษาลมยางให้คงที่

1. ตรวจสอบลมยางเป็นประจำ

ควรตรวจสอบลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง หรือก่อนออกทริปยาวๆ ก็ดีนะ จะได้ขับขี่ปลอดภัย ลดการสิ้นเปลืองน้ำมัน และยางก็อยู่กับเราได้นานขึ้นด้วยนะ อย่าลืมเช็กค่าที่ถูกต้องตามคู่มือรถด้วยล่ะ

2. เติมลมยางให้ถูกต้อง

เติมลมยางให้พอดีตามค่ามาตรฐานที่ระบุไว้ในคู่มือรถยนต์ หรือที่ป้ายข้อมูลที่ติดอยู่ที่ประตูคนขับ เพื่อยืดอายุการใช้งานของยาง และประหยัดน้ำมัน

3. หลีกเลี่ยงการขับรถด้วยลมยางอ่อน

เพื่อความปลอดภัยและประหยัดเงินในกระเป๋า ควรตรวจเช็กลมยางรถให้ได้มาตรฐานตามที่ระบุในคู่มือรถสม่ำเสมอ เพราะลมยางอ่อนจะทำให้ยางสึกเร็วขึ้น เกาะถนนไม่ดี เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น

4. หลีกเลี่ยงการขับรถด้วยลมยางแข็ง

อย่าปล่อยให้ลมยางแข็งเกินไป ควรตรวจเช็กและเติมลมยางให้ได้ค่าที่ระบุในคู่มือรถยนต์ หากยางแข็งเกินไปจะทำให้รถเสียการทรงตัว ยางอาจระเบิดได้ และยังทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันอีกด้วย

 

ตรวจสอบวาล์วลมยาง

5. ตรวจสอบวาล์วลมยาง

ตรวจสอบสภาพวาล์วลมยางทุกเส้น ว่ามีรอยแตกร้าว หรือชำรุดเสียหายหรือไม่ เพื่อป้องกันการรั่วซึมของลม

6. หลีกเลี่ยงการจอดรถทับวัตถุหนัก

การจอดรถทับสิ่งของหนักๆ อาจทำให้ยางเสียรูปได้ ยางรถที่เสียรูปจะส่งผลต่อการขับขี่ ทำให้รถเสียการทรงตัว อันตรายต่อตัวเราและผู้ร่วมทาง

7. สลับยางตามระยะทางหรือเวลาที่กำหนด

การสลับยางรถทุกๆ 10,000 กิโลเมตร หรือทุก 6 เดือน เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะการสลับยางจะช่วยให้ดอกยางสึกเสมอกัน ทำให้ยืดอายุการใช้งานของยางได้นานขึ้น

8.เลือกใช้ยางรถยนต์ที่มีคุณภาพ

ยางรถยนต์ที่มีคุณภาพดี จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า และมีความทนทานต่อแรงกดและแรงเสียดทานได้ดีกว่า

 

การดูแลรักษาลมยางให้คงที่เป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้ เพียงแค่หมั่นตรวจสอบลมยางเป็นประจำ และปฏิบัติตามคำแนะนำข้างต้น รับรองว่ารถของเราจะวิ่งได้อย่างปลอดภัย ประหยัด และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นแน่นอน

หากใครที่ยังไม่รู้จะไปตรวจเช็คลมยางที่ไหนดี? มาที่ศูนย์บริการยางดันลอปสิครับ เรามีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้บริการตรวจเช็ก เปลี่ยนยาง และเติมลมยางให้คุณอย่างครบวงจร ด้วยยางดันลอปคุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล อย่ารอให้เกิดปัญหาแล้วค่อยแก้ไข มาดูแลรถของคุณตั้งแต่วันนี้ เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจในการขับขี่กันนะครับ

ข่าวสารที่เกี่ยวข้อง

ลมยางอ่อน

เช็กด่วน! วิธีสังเกตลมยางอ่อนด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ

หลายคนอาจจะมองข้ามความสำคัญของการตรวจสอบลมยาง แต่รู้หรือไม่ว่า ลมยางที่ไม่ถูกต้องนั้นส่งผลกระทบต่อรถของเรามากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความปลอดภัย

อ่านต่อ...
ยางรถยนต์ขอบ 18

ยางรถยนต์ขอบ 18 รุ่นยอดนิยม พร้อมเปรียบเทียบสเปกที่เหมาะกับคุณ

” กังวลเรื่องยางรถยนต์ขอบ 18 ยี่ห้อไหนดีปี 2024 อยู่หรือเปล่า? Dunlop พร้อมเป็นคู่หูในการเลือกยางที่ใช่และตอบโจทย์การขับขี่ของคุณ! “ ไม่ว่

อ่านต่อ...
ริมการ์ดยาง (Rim Guard)

ริมการ์ดยาง (Rim Guard) คืออะไร อยากปกป้องล้อแม็กซ์ให้เหมือนใหม่ต้องอ่าน!

“ล้อแม็กซ์” คือหนึ่งในอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและสปอร์ตให้กับรถ แต่การใช้งานในชีวิตประจำวันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ยางขูดฟุตบาทจะเกิดรอย

อ่านต่อ...
Select the fields to be shown. Others will be hidden. Drag and drop to rearrange the order.
  • Image
  • Price
  • ประสิทธิภาพบนถนนแห้ง
  • ประสิทธิภาพบนถนนเปียก
  • การต้านทานการเหินน้ำ
  • ความเงียบ
  • ความสะดวกสบาย
  • อายุการใช้งาน
  • พื้นหิมะ
  • พื้นโคลน
  • ถนนลูกรัง
  • ถนนเรียบ
  • ชนิดของรถ
Click outside to hide the comparison bar
Compare