NEWS & PROMOTION

ข่าวสารและโปรโมชั่น

เติมลมยางรถเก๋งต้องเติมเท่าไหร่ ถึงปลอดภัยและดีสุด?

เติมลมยางรถเก๋งต้องเติมเท่าไหร่

รู้หรือไม่ว่า การเติมลมยางรถเก๋งให้ถูกต้อง มีผลต่อความปลอดภัย การประหยัดน้ำมัน และยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ด้วยนะ ซึ่งหลายคนอาจมองข้ามเรื่องนี้ คิดว่าแค่เติมลมให้เต็มก็พอ แต่จริงๆ แล้ว ยังมีรายละเอียดอีกหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง ดังนั้น วันนี้ดันลอปจึงมีวิธีการเติมลมยางสำหรับคนที่ใช้รถเก๋งมาฝากทุกคน

 

รถเก๋งเติมลมเท่าไหร่ถึงเหมาะสมที่สุด?

การเติมลมยางให้เหมาะสม เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมีผลต่อประสิทธิภาพการขับขี่ และความปลอดภัยของรถยนต์ของเรา

รถเก๋งโดยทั่วไปควรเติมลมเท่าไหร่?

  • รถเก๋งขนาดเล็ก โดยทั่วไปค่ามาตรฐานแรงดันลมยางอยู่ที่ 25-30 PSI 
  • รถเก๋งขนาดกลางถึงใหญ่ โดยทั่วไปค่ามาตรฐานแรงดันลมยางอยู่ที่ 30-35 PSI 

รถเก๋งบรรทุกหนักเติมลมยางเท่าไหร่?

  • รถเก๋ง ที่มีผู้โดยสารเต็มทั้ง 5 ที่นั่งและบรรทุกสัมภาระเต็มอัตรา โดยทั่วไปค่ามาตรฐานแรงดันลมยางอยู่ที่ 33-36 PSI

 

อย่างไรก็ตาม ค่ามาตรฐานแรงดันลมยาง ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ น้ำหนักรถ ขนาดยาง และโดยสามารถตรวจสอบค่าแรงดันลมยางได้ที่สติกเกอร์ข้างประตูรถฝั่งคนขับ/ผู้โดยสาร ฝาถังน้ำมัน หรือสมุดคู่มือติดรถ

 

ทำไมการเติมลมยางให้เหมาะสมจึงสำคัญ?

การเติมลมยางรถเก๋งให้ถูกต้องและเหมาะสมนั้น ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการขับขี่และความปลอดภัยของผู้ใช้รถโดยตรง เพราะการเติมลมยางให้เหมาะสมไม่เพียงช่วยให้ยางมีแรงดันสำหรับรับน้ำหนักรถและผู้โดยสารเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการสึกหรอของยาง ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น ประหยัดน้ำมัน และลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและเกิดยางรั่วหรือยางระเบิดได้ และถ้าหากเกิดเหตุการณ์ยางรั่วยางระเบิดในขณะขับขี่ขึ้นมา จะทำให้เราสูญเสียการควบคุมพวงมาลัยและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตอีกด้วย

 

ดังนั้น เมื่อพูดถึงปริมาณลมที่เหมาะสมที่สุด เราจะต้องมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย เช่น น้ำหนักของรถ แรงดันลมยางที่เหมาะสม และสภาพถนนที่ขับขี่ ซึ่งสำหรับรถเก๋งทั่วไปที่ใช้ยางที่มีขนาดมาตรฐาน การเติมลมให้ได้ตามค่าที่ระบุใน “คู่มือผู้ใช้งานรถ” มักจะเป็นที่เหมาะสมที่สุด 

 

ตรวจสอบแรงดันลมยาง

 

ควรตรวจสอบแรงดันลมยางบ่อยแค่ไหน?

การตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นสิ่งที่สำคัญและควรทำอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้รถของคุณมีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการขับขี่ โดยทั่วไปแล้ว เราควรตรวจสอบแรงดันลมยางอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อเดือน แต่อาจจะต้องทำบ่อยขึ้นในสภาวะที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูง เช่น ในช่วงฤดูร้อน หรือในกรณีที่เราขับขี่ไปในระยะทางยาวๆ และสำหรับการตรวจสอบนี้ควรทำในระหว่างเวลาที่ยางยังไม่ร้อนจากการขับขี่เพื่อให้ได้ผลที่แม่นยำที่สุด

 

วิธีการตรวจสอบแรงดันลมยาง

การตรวจสอบแรงดันลมยางที่มาตรฐานทั่วไป เราสามารถใช้เครื่องมือวัดแรงดันลมยาง หรือจะใช้เครื่องวัดในปั๊มลมที่มีที่ใกล้เคียงก็ได้ แต่ควรมีการตรวจสอบแรงดันลมยางโดยตรงบนแผงหน้าปัดรถอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อเดือน เพื่อให้แน่ใจว่าระดับแรงดันลมยางอยู่ในระดับที่เหมาะสม และไม่ควรลืมตรวจสอบค่า PSI สูงสุดที่ระบุไว้บนแก้มยางหรือคู่มือรถของเรา เพื่อให้การเติมลมยางเป็นไปตามมาตรฐานและปลอดภัยสำหรับการขับขี่ในทุกๆ สถานการณ์  เนื่องจากการเติมลมยางให้เหมาะสมจะช่วยลดการสึกหรอ และเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่มากขึ้น และที่สำคัญยังช่วยประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย 

 

วิธีเติมลมยางรถเก๋งที่ถูกต้อง

  • จอดรถให้นิ่งสนิท 
  • ดึงเบรกมือ เพื่อป้องกันรถไหล
  • คลายเกลียวฝาจุกวาล์วออก
  • ตรวจสอบแรงดันลมยาง
  • เลือกระดับแรงดันลมยางที่ต้องการบนตู้เติมลม
  • เสียบหัวจ่ายลมเข้ากับจุกวาล์ว
  • รอจนเครื่องส่งเสียงเตือน เมื่อเติมลมครบตามระดับ

** การเติมลมรถยนต์ควรทำในขณะที่ยางเย็น เพราะการเติมลมยางขณะที่ยางมีอุณหภูมิสูงอาจทำให้ผลไม่แม่นยำ เนื่องจากความร้อนจะทำให้อากาศขยายตัว หากคุณต้องการเติมลมยางขณะที่ยางยังร้อนอยู่ ควรเติมลมยางเพิ่มขึ้น 2 PSI เพื่อชดเชยความดันอากาศที่ขยายตัวภายใน **

 

วิธีลดลมยาง หากเติมยางรถยนต์มากเกินไป แก้ไขยังไงดี?

  • ใช้แท่งเหล็กขนาดเล็ก กดลงบนวาล์ว เพื่อปล่อยลมออก
  • ตรวจสอบค่าแรงดันลมยางอีกครั้ง
  • ทำซ้ำจนได้ระดับแรงดันลมยางที่ต้องการ

จะเห็นได้ว่าการ “เติมลมยางรถยนต์” เป็นเรื่องสำคัญและจำเป็นอย่างมาก ในการดูแลรักษาระดับแรงดันลมยางและเติมหรือลดลมยางให้ถูกต้องและเหมาะสม เนื่อจากช่วยให้รถของเราพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น เราควรหมั่นตรวจเช็คเป็นประจำ ก็จะช่วยให้เราขับรถปลอดภัยในทุกเส้นทาง

 

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่ายางรถยนต์ของเราได้รับการดูแลอย่างถูกต้องแวะมาให้ดันลอปเราดูแล เพียงนำรถของคุณมาที่ศูนย์บริการดันลอปทั่วประเทศ

ข่าวสารที่เกี่ยวข้อง

ขับรถลุยน้ำท่วมแล้วเครื่องยนต์ดับ

ลุยน้ำท่วมแล้วเครื่องยนต์ดับ! ทำอย่างไรดี? เผยวิธีแก้ไขเบื้องต้น

ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีปัญหาเรื่องการจราจรติดขัดอยู่เสมอ ไม่ว่าจะสร้างถนนใหม่เพิ่มสักเท่าไหร่ก็ไม่พอกับความต้องการ เนื่องจากปริมาณการใช้รถที่พุ่งสูงอ

อ่านต่อ...

Dunlop Family Outing 2024

บริษัท ดันลอป ไทร์ (ไทยแลนด์) จำกัด นำโดยคณะผู้บริหาร และพนักงาน จัดทริปท่องเที่ยว เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่าง ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ยางรถยนต์ดันลอป

อ่านต่อ...
Select the fields to be shown. Others will be hidden. Drag and drop to rearrange the order.
  • Image
  • Price
  • ประสิทธิภาพบนถนนแห้ง
  • ประสิทธิภาพบนถนนเปียก
  • การต้านทานการเหินน้ำ
  • ความเงียบ
  • ความสะดวกสบาย
  • อายุการใช้งาน
  • พื้นหิมะ
  • พื้นโคลน
  • ถนนลูกรัง
  • ถนนเรียบ
  • ชนิดของรถ
Click outside to hide the comparison bar
Compare