ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวไกลแบบนี้ การจะต่อใบขับขี่คงไม่ใชเรื่องยุ่งยากอีกต่อไป เพราะในปัจจุบันเราสามารถทำใบขับขี่ออนไลน์ได้ด้วยตนเอง เพียงแค่ลงทะเบียนต่อใบขับขี่ออนไลน์กับระบบ DLT e-Learning ของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งการลงทะเบียนนี้จะต้องต่อใบขับขี่ล่วงหน้าก่อนวันสิ้นอายุไม่เกิน 90 วัน หรือกรณีใบขับขี่สิ้นอายุไปแล้วไม่เกิน 1 ปี ขั้นตอนการทำใบขับขี่ออนไลน์มีอะไรบ้าง Dunlop ลิสต์ขั้นตอนมาให้แล้ว!
ใบขับขี่… บัตรนี้ใครว่าไม่สำคัญ
“ใบขับขี่” คือ บัตรที่มีความสำคัญอย่างมากในการขับขี่รถ เนื่องจากมันไม่เพียงแต่เป็นเอกสารที่ยืนยันว่าเราผ่านการอบรมและทดสอบการขับขี่มาแล้วเท่านั้น แต่มันยังเป็นเอกสารที่จำเป็นในการขับขี่รถ หากเราขับขี่โดยไม่มีใบขับขี่หรือใบขับขี่หมดอายุ เราอาจถูกตั้งข้อหาและถูกปรับเงินได้ นอกจากนี้ในบางอาชีพเอง การมีใบขับขี่อาจเป็นเครื่องมือสำคัญในการสมัครงานหรือการทำงานบางประเภท เช่น ใบขับขี่รถบรรทุก เป็นต้น
ใบขับขี่มีกี่ประเภท อะไรบ้าง?
โดยปกติแล้วใบขับขี่จะถูกแยกย่อยประเภทตามชนิดของยานพาหนะ และรูปแบบการใช้งาน สามารถแยกได้ดังนี้
1. ใบขับขี่รถยนต์ชนิดชั่วคราว
สำหรับใบขับขี่ประเภทนี้จะเป็นใบขับขี่ใบแรกที่ผู้สอบใบขับขี่รถยนต์ครั้งแรกได้รับ โดยในครั้งแรกที่ไปทำใบขับขี่ผู้ที่ขอทำใบขับขี่ไม่ว่าจะเป็นรถชนิดใดก็ตาม จะได้รับเพียงใบขับขี่แบบชั่วคราวก่อน ซึ่งจะอยู่ 3 ประเภท
- ใบขับขี่รถยนต์ชั่วคราว
- ใบขับขี่รถยนต์สามล้อชั่วคราว
2. ใบขับขี่รถยนต์จักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว
สำหรับใบขับขี่ประเภทนี้จะเป็นใบขับขี่สำหรับผู้ที่มาขอใบขับขี่ของรถจักรยานยนต์ โดยใบขับขี่ประเภทนี้มีอายุการใช้งาน 2 ปี สามารถทำได้เมื่อมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
3. ใบขับขี่รถยนต์ส่วนบุคคล
สำหรับใบขับขี่ประเภทนี้ จะได้หลังจากที่เราใช้งานใบขับขี่รถยนต์ประเภทชั่วคราวจนครบอายุการใช้งานแล้ว ในครั้งต่อไปที่ทำการต่ออายุใบขับขี่จะได้รับใบขับขี่รถยนต์แบบใช้งานแบบยาวๆ อยู่ที่ 5 ปี
4. ใบขับขี่รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล
สำหรับใบขับขี่ของรถยนต์สามล้อหรือที่เรียกกันว่า รถตุ๊กตุ๊ก มีเงื่อนไขเช่นเดียวกับใบขับขี่รถยนต์ นั่นก็คือเมื่อเราใช้งานใบขับขี่ประเภทชั่วคราวจนครบอายุการใช้งานแล้ว ในครั้งต่อไปที่ทำการต่ออายุจะได้รับใบขับขี่แบบ 5 ปี ไปใช้นั่นเอง
ทำใบขับขี่ออนไลน์ด้วยตนเอง ใครว่ายาก!
เพื่อให้การทำใบขับขี่ออนไลน์ของเราจะเป็นไปอย่างง่าย และสะดวกสบายที่สุด Dunlop ได้รวบรวมขั้นตอนและรายละเอียดในการเข้าอบรมออนไลน์ตั้งแต่ต้นจนจบมาให้เราแล้ว จะมีขั้นตอนอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
1. เข้าเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เพื่อเข้าสู่ระบบ
การอบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ สำหรับผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนต่อใบขับขี่มาก่อน อันดับแรกให้กด ลงทะเบียนต่อใบขับขี่ออนไลน์ เพื่อเข้ารับการอบรมต่อใบอนุญาตขับขี่ทางออนไลน์ในเว็บไซต์ DLT e-Learning แต่สำหรับผู้ที่เคยอบรมมาก่อนแล้ว สามารถเข้าสู่ระบบได้โดยใช้เลขบัตรประชาชนและวันเดือนปีเกิดเพื่อเข้าสู่ระบบได้เลย
2. กรอกข้อมูลลงทะเบียนอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์
สำหรับผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนมาก่อน เมื่อเข้ามาแล้วให้ทำการกรอกข้อมูลต่างๆ ให้ถูกต้อง เพื่อความสะดวกในการใช้งานในอนาคต จากนั้น กดปุ่ม “ดำเนินการต่อ” จะปรากฎเงื่อนไขการลงทะเบียน ซึ่งเนื้อหาในข้อความมีดังนี้
กรมการขนส่งทางบกที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้อบรมเฉพาะข้อมูลที่จำเป็นเท่านั้น โดยข้อมูลส่วนตัวของผู้อบรมจะถูกเก็บรักษาไว้เป็นความลับ ทางกรมการขนส่งทางบกจะไม่นำข้อมูลส่วนตัวเหล่านี้ไปเปิดเผยแก่บุคคลอื่นเพื่อแสวงหาผลกำไรหรือแจกจ่ายข้อมูลส่วนตัวโดยเด็ดขาด
เมื่ออ่านข้อความดังกล่าวจบให้ทำการกด “ยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข” จากนั้นกด “ยืนยัน“
3. เลือกคลาสอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์
เมื่อลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดไปให้เลือกคลาสการอบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ ภายใต้หมวด “อบรมต่ออายุ” โดยผู้ที่ต้องการ อบรมออนไลน์ต่อใบขับขี่รถยนต์, ต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์, อบรมต่อใบขับขี่รถขนส่ง หรือ ต่อใบขับขี่สาธารณะ จะต้องอบรมเพื่อต่อใบขับขี่ภายใต้หัวข้อเดียวกัน จากนั้นก็เลือกประเภท การอบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ ตามใบอนุญาตขับรถที่ต้องการต่ออายุ ซึ่งผู้ที่ต้องการต่อใบขับขี่ออนไลน์นั้น จำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจให้ดีเกี่ยวกับชั่วโมงการอบรม เนื่องจากหากอบรมไม่ครบจำนวนชั่วโมง อาจจะทำให้ไม่สามารถต่อใบขับขี่ใหม่ได้ โดยหลักสูตรการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ของใบอนุญาตแต่ละประเภท มีดังนี้
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคล : สำหรับใบอนุญาตประเภทนี้จะเป็นหลักสูตรสำหรับต่อใบขับขี่หมดอายุออนไลน์ ไม่ว่าจะรถยนต์, มอเตอร์ไซค์ หรือ รถยนต์สามล้อ ก็ถูกจัดให้อยู่ในหมวดนี้หมด โดยหลักสูตรจะมีเวลาการอบรมอยู่ที่ 1 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถขนส่ง : กรณีต่ออายุใบขับขี่ ในหมวดใบอนุญาตประเภทนี้จะเป็นหลักสูตรสำหรับผู้ขับรถส่วนบุคคลชนิดที่ 1-4 และใบอนุญาตเป็นผู้ขับรถทุกประเภทชนิดที่ 1-4 โดยหลักสูตรจะมีเวลาการอบรมอยู่ที่ 2 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถสาธารณะ : สำหรับใบอนุญาตประเภทนี้จะเป็นหลักสูตรสำหรับใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ, รถจักรยานยนต์สาธารณะ และรถยนต์สามล้อสาธารณะ โดยหลักสูตรจะมีเวลาการอบรมอยู่ที่ 3 ชั่วโมง
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลที่ขาดต่ออายุเกิน 1 ปีขึ้นไป : สำหรับผู้ที่ขาดต่อใบขับขี่จนหมดอายุ เกิน 1 ปีขึ้นไป ทั้งใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลประเภทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรถยนต์สามล้อ จะต้องอบรมต่อใบขับขี่ใหม่ โดยหลักสูตรนี้มีเวลาในการอบรมอยู่ที่ 2 ชั่วโมงขึ้นไป รวมทั้งจะต้อง สอบใบขับขี่ออนไลน์ ให้ได้คะแนนเกิน 90% หรือ 45 คะแนนจากคะแนนเต็ม 50 คะแนน
- ใบอนุญาตขับรถส่วนบุคคลชั่วคราวที่สิ้นอายุเกิน 3 ปี : สำหรับใบอนุญาตประเภทนี้จะเป็นหลักสูตรสำหรับอนุญาตขับรถส่วนบุคคลประเภทรถยนต์ รถจักรยานยนต์ รถยนต์สามล้อ โดยหลักสูตรนี้มีเวลาในการอบรมอยู่ที่ 2 ชั่วโมงรวมทั้งจะต้อง สอบใบขับขี่ออนไลน์ ให้ได้คะแนนเกิน 90% หรือ 45 คะแนนจากคะแนนเต็ม 50 คะแนน และจะต้องสอบปฎิบัติให้ผ่านทั้ง 3 ข้อเหมือนทำใบขับขี่ใหม่
4. ทำแบบทดสอบก่อนอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์
ก่อนที่จะทำการอบรม จะมีแบบทดสอบก่อนอบรมขึ้นหน้าจอทั้งหมด 3 ข้อ โดยคำถามเหล่านี้มีขึ้นเพื่อสร้างทัศนคติที่ดีต่อผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน เพื่อที่จะได้เข้าใจถึงขีดความสามารถของผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน เช่น เด็ก, ผู้พิการ, คนชรา ฯลฯ รวมถึงตรวจสอบสามัญสำนึกในการใช้รถใช้ถนน โดยจะวัดจากการสอบถามเกี่ยวกับการสังเกตสัญญาณไฟจราจรและป้ายจราจรตามท้องถนนทั่วไปนั่นเอง
5. ดูวิดีโออบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์
เมื่อตอบคำถามเรียบร้อยแล้ว ก็มาสู่ขั้นตอนการดูวิดีโอเพื่อเข้ารับการอบรมต่อใบขับขี่ทางออนไลน์กันเลย โดยในขั้นตอนนี้เราไม่สามารถปิดหน้าต่างวิดีโอเพื่อไปทำอย่างอื่นหรือกดข้ามได้ เราทำได้แค่เพียงตั้งใจดูและฟังข้อมูลในวิดีโอเท่านั้น เพราะเมื่อจบการอบรมออนไลน์ต่อใบขับขี่ จะมีให้ตอบคำถาม ซึ่งผู้อบรมจะต้องตอบคำถามให้ถูกต้องเพื่อผ่านการรับรองการอบรม
6. ตอบแบบสอบถามหลังจบการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์
เมื่อจบการอบรมออนไลน์ต่อใบขับขี่ จะมีให้ตอบคำถามหลังการอบรมด้วยกัน 3 ข้อ ซึ่งผู้อบรมจะต้องตอบคำถามให้ถูกต้องเพื่อผ่านการรับรองการอบรม เนื่องจากคำถามทั้ง 3 ข้อนี้จะเป็นคำถามที่วัดระดับความรู้ความสามารถที่ได้รับในระหว่างการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์
7. เก็บหลักฐานการอบรม
หลังจากที่ตอบคำถามหลังการอบรมเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมเก็บหลักฐานการอบรมด้วย โดยเข้าไปในเมนู “หลักฐานการอบรม” ก็จะพบหน้าจอพร้อม QR Code ที่เป็นหลักฐานผ่านการอบรม ซึ่งเราสามารถกดปุ่ม “บันทึก” หรือแคปเจอร์หน้าจอเพื่อเก็บหลักฐานสำหรับการต่อใบขับขี่ออนไลน์ผ่านแอป DLT Smart Queue ได้
ข้อควรระวัง คือ หลักฐานการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์มีอายุเพียง 180 วันหรือ 6 เดือนหลังการอบรมเท่านั้น หากผู้อบรมไม่ทำการจองคิวอบรมใบขับขี่ออนไลน์ให้เรียบร้อยภายในระยะเวลาที่กำหนด จะถือว่าการอบรมต่อใบขับขี่ออนไลน์ดังกล่าวเป็นโมฆะและผู้อบรมจะต้องทำการอบรมใหม่ทั้งหมด
วิธีจองคิวใบขับขี่ออนไลน์ ผ่านระบบ DLT Smart Queue
แอปพลิเคชัน DLT Smart Queue เป็นแอปพลิเคชันที่สร้างขึ้นมาเพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถจองคิว ต่อใบขับขี่หมดอายุออนไลน์ และ ต่ออายุใบขับขี่ล่วงหน้าได้ เพื่อความสะดวกสบาย โดยเราสามารถทำตามขั้นตอนได้ ดังนี้
1. ดาวน์โหลดแอพลิเคชัน DLT Smart Queue
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือเข้าเว็บไซต์ gecc.dlt.go.th เพื่อลงทะเบียนและจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์
2. ลงทะเบียนต่อใบขับขี่ออนไลน์
เมื่อขึ้นหน้าจอดังกล่าว หากเป็นผู้ที่ไม่เคยใช้แอปพลิเคชันให้กดเลือกลงทะเบียนก่อน จากนั้นจะขึ้นหน้าจอให้เลือกว่าเป็นผู้ใช้งานเป็นคนสัญชาติไทย หรือ ชาวต่างชาติ เมื่อเลือกเสร็จแล้วจะขึ้นหน้าจอให้กรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อสมัครใช้งาน รวมทั้งเบอร์โทรศัพท์และอีเมล์ที่ใช้ติดต่อเพื่อรับข้อความ SMS OTP จากนั้น ระบบจะส่ง OTP มาเพื่อยืนยันตัวตน เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนลงทะเบียน
3. จองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์
จากนั้นไปที่หน้ากลับเข้าไปที่หน้าแรก จะมีให้เลือกสำนักงานขนส่งที่สะดวกไปต่อใบขับขี่ เมื่อกดเลือกแล้วจะขึ้นหน้าจอให้เลือกประเภทบริการหมวด “งานใบอนุญาต” แล้วเลือกประเภทใบอนุญาตที่ต้องการ ต่อใบขับขี่หมดอายุ จากนั้น กรอกข้อมูลใบขับขี่ที่หมดอายุ พร้อมเลือกวัน-เวลาที่ต้องการจองคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ และกดยืนยัน
4. บันทึกหลักฐานเพื่อยื่นตอนต่อใบขับขี่
จากนั้นกดเข้าไปที่เมนู “คิวของฉัน” จะพบกับคิวต่อใบขับขี่ออนไลน์ที่ได้จองเอาไว้เรียบร้อย ให้กดเข้าไปเพื่อบันทึกหน้าจอเป็นหลักฐานเพื่อไปยื่นในวันต่อใบขับขี่ โดยเอกสารที่ต้องใช้ในวันต่อใบขับขี่มีดังนี้
- ใบขับขี่ปัจจุบัน
- บัตรประจำตัวประชาชน
- หลักฐานการอบรมใบขับขี่ออนไลน์ 2566 ไม่เกิน 6 เดือน
- ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน
และนี่ก็คือสาระดีๆ เกี่ยวกับรถยนต์ที่เรานำมาฝากในวันนี้ จะเห็นได้ว่าการอบรมต่ออายุใบขับขี่ออนไลน์ นั้นเป็นเรื่องง่าย สามารถทำด้วยตัวเองได้ แถมยังช่วยลดระยะเวลาในการดำเนินการที่สำนักงานขนส่งด้วย รับรองว่าการต่อใบขับขี่ครั้งถัดๆ ไปจะสะดวกสบายและรวดเร็วมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน
นอกจากใบขับขี่จะสำคัญสำหรับคนมีรถยนต์แล้ว แน่นอนว่าเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อความปลอดภัยในการใช้รถ ใช้ถนน หากยางมีรอยแตกร้าว ดอกยางสึกหรอ หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ สามารถปรึกษาเราได้ เพราะที่นี่ เราพร้อมให้คำปรึกษาเกี่ยวกับยางรถยนต์ และบริการเปลี่ยนยางอย่างมืออาชีพ