อย่างที่ทราบกันดีว่า ยางรถยนต์เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งของรถยนต์ เพราะเป็นส่วนที่สัมผัสกับพื้นถนนโดยตรง มีผลต่อการยึดเกาะ การทรงตัว และความปลอดภัยในการขับขี่ ดังนั้น การเลือกซื้อยางจึงเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ซึ่งหนึ่งในข้อที่คนส่วนใหญ่มักนำมาพิจารณาก็คงไม่พ้นเรื่องจะใช้ “ยางใหม่ค้างปี ราคาถูก” หรือ “ยางปีปัจจุบัน” ที่เพิ่งผลิตใหม่เอี่ยมดี?
บทความนี้ Dunlop จะมาไขข้อข้องใจ และนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อยางได้อย่างเหมาะสมกัน!
ทำความรู้จักกับ “ยางใหม่ค้างปี” และ “ยางปีปัจจุบัน”
ก่อนจะไปทำความรู้จักกับ ยางใหม่ค้างปี และ ยางปีปัจจุบัน มาดูเกร็ดความรู้เล็กๆ น้อยๆ เรื่องอายุยางกันก่อน ซึ่งการจะดูว่ายางรถยนต์เส้นนั้นๆ มีอายุเท่าไหร่ สามารถดูได้จาก “สัปดาห์และปีที่ผลิต” ที่บริเวณแก้มยางของยางทุกเส้นได้เลย จะเป็นตัวเลข 4 ตัว เรียงติดกัน โดยตัวเลข 2 ตัวหน้า หมายถึง สัปดาห์ที่ผลิต และ ตัวเลข 2 ตัวหลัง หมายถึง ปี ค.ศ. ที่ผลิต
“ยางใหม่ค้างปี” และ “ยางปีปัจจุบัน” คือ?
ยางใหม่ค้างปี ยางตกปี หรือ ยางปีก่อนหน้า หมายถึง ยางรถยนต์ที่ผลิตขึ้นมาแล้ว แต่ยังไม่ถูกนำไปใช้งาน อาจถูกเก็บไว้ในสต็อกของโรงงานผู้ผลิต หรือตัวแทนจำหน่ายเป็นระยะเวลาหนึ่ง จนกระทั่งถึงปีถัดไป จึงถูกจัดเป็นยางค้างสต็อก หรือยางค้างปี ส่วนยางปีปัจจุบัน หมายถึง ยางรถยนต์ที่ผลิตขึ้นมาใหม่ในปีปัจจุบัน
ยางใหม่ค้างปี ใช้ได้ไหม?
นับเป็นอีกหนึ่งคำถาม ที่หลายๆ คนมักสงสัยว่า แล้วยางใหม่ค้างปี ดีไหม ยังใช้ได้หรือเปล่า ? ต้องบอกก่อนว่า หากคุณเก็บรักษายางใหม่ค้างปีอย่างถูกวิธี อาทิ เก็บให้ห่างจากแสงแดด ความร้อน ความชื้น สารเคมี และหลีกเลี่ยงการวางยางซ้อนกันหลายๆ ชั้น ตัวยางก็จะคงคุณภาพและสมรรถนะที่ดีเทียบเท่ากับยางใหม่ที่เพิ่งผลิตออกมาจากโรงงาน เพียงแต่มีอายุการผลิตที่มากกว่าเท่านั้นเอง
เหตุผลที่ “ยางใหม่ค้างปี” มีราคาถูกกว่า “ยางปีปัจจุบัน”
เหตุผลที่ “ยางใหม่ค้างปี” มีราคาถูกกว่า “ยางปีปัจจุบัน” เกิดจาก 3 ปัจจัยหลักๆ คือ การหมุนเวียนสินค้า ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา และความต้องการของตลาด ซึ่งจะมีรายละเอียดดังนี้
-
การหมุนเวียนสินค้า
หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้มียางใหม่ค้างปีเกิดขึ้น คือ การผลิตยางที่เกินความต้องการของตลาด ซึ่งอาจเกิดจากการประเมินความต้องการของผู้บริโภคที่คลาดเคลื่อน นอกจากนี้ การปรับปรุงสูตรยางเพื่อให้ได้สมรรถนะที่ดีขึ้น ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดยางค้างสต็อกได้เช่นกัน เนื่องจากยางรุ่นเก่าที่ผลิตขึ้นตามสูตรเดิมจะกลายเป็นสินค้าที่ค้างอยู่ที่คลังนั่นเอง
-
ค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา
การเก็บรักษายางจำนวนมากต้องใช้พื้นที่และค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่มักเป็นค่าดูแลรักษายางเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น และถึงแม้ว่ายางจะถูกเก็บรักษาอย่างดีที่สุดก็ยังมีโอกาสเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ฉะนั้น เพื่อให้ยางเหล่านี้หมุนเวียนออกไปได้เร็วขึ้น และลดค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา ผู้ขายเลยตั้งราคาให้ถูกกว่ายางใหม่นั่นเอง
-
ความต้องการของตลาด
อย่างที่ได้บอกไปในข้างต้นว่า การเก็บรักษายางมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ฉะนั้น จึงจำเป็นต้องเร่งระบายยางที่ค้างสต็อกออก ทำให้ผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายมักใช้วิธีการลดราคา เพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อ นอกจากนี้ การจัดโปรโมชั่นพิเศษ เช่น การแถมของรางวัล ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่นิยมใช้ในการกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์จากการซื้อยางในราคาที่คุ้มค่ากว่าปกติ
การทดสอบ
บริษัท ดันลอป ไทร์ (ไทยแลนด์) จำกัด และบริษัท ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ไทยแลนด์ จำกัด ได้ทำการทดสอบ “ยางใหม่ค้างปี” และ “ยางปีปัจจุบัน” เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพในด้านต่างๆ ว่ามีความแตกต่างกันมากน้องเพียงใด โดยการทอดสอบจะอิงจากมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) และการประเมินจากผู้ขับขี่จริงเป็นหลัก
ผลการทดสอบ
ผลการทดสอบ | ขนาดยางรถยนต์ | 205/R16C 110/108R AT20 | 165/65R14 79S EC300 | |||
---|---|---|---|---|---|---|
ปีผลิตยางรถยนต์ | ยางปีปัจจุบัน | ยางปีก่อนหน้า 1 ปี | ยางปีก่อนหน้า 2 ปี | ยางปีปัจจุบัน | ยางปีก่อนหน้า 2 ปี | |
มาตรฐานด้านความ
ปลอดภัย มอก.2718, 2719 * |
ความทนทาน | (ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) | (ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) | (ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) | (ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) | (ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) |
ความทนทานขณะความเร็วสูง | (ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) | (ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) | (ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) | (ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) | (ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) | |
ทนทานต่อการเจาะ | (ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) | (ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) | (ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) | (ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) | (ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน) | |
มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม
มอก.2718 |
ความต้านทานการหมุน | 100 | 103 | 106 | 100 | 104 |
เสียง (เครื่องวัดความดังของเสียง) | 100 | 100 | 95 | 100 | 100 | |
การยึดเกาะถนนเปียก | 100 | 100 | 100 | 100 | 95 |
* เปรียบเทียบอัตราส่วน โดยคิดยางที่ผลิตปัจจุบัน เท่ากับ 100
** มอก.2718 – มาตรฐานยางล้อแบบสูบลมสำหรับถยนต์และส่วนพ่วง / มอก.2719 – มาตรฐานยางล้อแบบสูบลมสำหรับถยนต์เชิงพาณิชย์และส่วนพ่วงสัมผัสผิวถนน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความต้านทานการหมุน
*** มอก.2721– มาตรฐานยางล้อสูบลม : ข้อกำหนดด้านเสียงจากยางล้อที่สัมผัสผิวถนน การยึดเกาะถนนบนพื้นเปียก และความต้านทางการหมุน
สถานที่และเวลา : การทดสอบเกิดขึ้นที่สนามทดสอบยางรถยนต์ของบริษัท ซูมิโตโม รับเบอร์ อินดัสทรี ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566
รถยนต์และยางที่ใช้ทดสอบ
- Mitsubishi Triton : รถกระบะขนาดกลาง ใช้ยางขนาด 205R16C 110/108R รุ่น GRANDTREK AT20 ซึ่งเป็นยางอเนกประสงค์ เหมาะสำหรับการขับขี่ทั้งบนถนนและออฟโรด
- Mitsubishi Mirage : รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ใช้ยางขนาด 165/65R14 79S รุ่น ENASAVE EC300 ซึ่งเป็นยางที่เน้นประหยัดน้ำมันและให้ความนุ่มนวลในการขับขี่
สรุปแล้ว เลือก “ยางใหม่ค้างปี” หรือ “ยางปีปัจจุบัน” ดีกว่ากัน?
ก่อนจะไปถึงข้อสรุปว่าควรเลือก “ยางใหม่ค้างปี” หรือ “ยางปีปัจจุบัน” ดีกว่ากัน มาดูการทดสอบเปรียบเทียบของยางใหม่ค้างปีและยางปีปัจจุบันกันก่อน ว่ามีความแตกต่างกันหรือไม่ ซึ่งการทดสอบเปรียบเทียบนี้ มาจาก บริษัท ดันลอป ไทร์ (ไทยแลนด์) จำกัด ร่วมกับ บริษัท ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ไทยแลนด์ จำกัดนั่นเอง
การทดสอบเปรียบเทียบนี้ จะทดสอบด้วยการควบคุมปัจจัยต่างๆ อาทิ การจัดเก็บยางรถยนต์ และเงื่อนไขการทดสอบ เป็นต้น โดยเงื่อนไขการทดสอบจะแบ่งออกเป็น 3 ด้าน ดังนี้
-
ทดสอบตามมาตรฐานด้านความปลอดภัย มอก.2718 และ มอก.2719 (ความทนทาน, การเจาะ)
ผลการทดสอบยาง Mitsubishi Triton ขนาดและรุ่นยาง 205R16C 110/108R AT20 ทั้งหมด 3 ปี คือ Y2023 , Y2022 และ Y2021 ผ่านเกณฑ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยทั้งหมด
-
ทดสอบตามมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม มอก.2721
ผลการทดสอบยาง Mitsubishi Triton ขนาดและรุ่นยาง 205R16C 110/108R AT20 ทั้งหมด 3 ปี คือ Y2023 , Y2022 และ Y2021 ผ่านเกณฑ์มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมทั้งหมด ยกเว้น Y2021 ที่ติดปัญหาด้านเสียง (เครื่องวัดความดังของเสียง) ที่ไม่ถึงค่ามาตรฐาน (95/100)
-
ทดสอบโดยประเมินจากผู้ขับขี่
ผลการทดสอบยาง Mitsubishi Triton ขนาดและรุ่นยาง 205R16C 110/108R AT20 ทั้งหมด 3 ปี คือ Y2023 และ Y2022 ผ่านเกณฑ์การทดสอบโดยประเมินจากผู้ขับขี่ทั้งหมด ยกเว้น Y2021 ที่ติดปัญหาด้านการควบคุมทิศทาง (90/100) , ความนุ่มนวล และเสียง (ความรู้สึกจากผู้ขับขี่) ที่ไม่ถึงค่ามาตรฐาน (95/100)
สรุปได้ว่า “ยางใหม่ค้างปี” หรือ “ยางปีปัจจุบัน” แทบไม่แตกต่างกันเลย ในแง่ของคุณภาพ แต่ยางค้างปีมักจะมีราคาที่น่าสนใจกว่า เนื่องจากเป็นการเคลียร์สต็อก ทำให้ผู้บริโภคได้ยางคุณภาพดีในราคาที่คุ้มค่านั่นเอง
ทั้งนี้หากคุณกำลังมองหายางรถ SUV ที่เป็นยางค้างปีขอบ 17 และยางค้างปีขอบ 16 ขอแนะนำให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านยางรถยนต์อย่าง Dunlop เพื่อขอคำแนะนำในการเลือกยางที่เหมาะสมกับรถของคุณ อีกทั้งคุณอาจได้พบกับยางรถ SUV ที่ราคาที่น่าสนใจอีกด้วย