การมีรถยนต์ไว้เป็นพาหนะในการขับขี่ นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ทำให้สามารถไปทำงาน ไปทำธุระส่วนดัวได้ดังใจแล้ว แน่นอนว่าหมายถึงการเพิ่มภาระผูกพันอย่างการดูแลรักษารถยนต์ด้วย เพราะถ้าคุณมีรถยนต์แล้วจะเอาแต่ขับอย่างเดียวโดยไม่ตรวจเช็กสภาพรถยนต์เลยก็คงไม่ได้ เพราะรถที่ถูกใช้งานอย่างเดียว ไม่เคยถูกดูแลย่อมเสื่อมสภาพจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ เป็นอันตรายบนท้องถนนได้ ยิ่งเรื่องช่วงล่างหรือระบบเบรคยิ่งไม่ควรละเลย
วันนี้ Dunlop เลยขอพามาเช็ก 5 สัญญาณเตือน! ผ้าเบรครถยนต์หมด รีบเปลี่ยนด่วน ก่อนเกิดอันตราย!
ผ้าเบรครถยนต์ ตัวช่วยด้านความปลอดภัยที่ไม่ควรละเลย !
ผ้าเบรค คือ ส่วนหนึ่งที่สำคัญของระบบเบรคในรถยนต์ โดยผ้าเบรคจะอยู่ในคาลิเปอร์เบรคหรือดรัมเบรค ขึ้นอยู่กับว่าเบรคของรถคุณเป็นประเภทไหน ถ้าผ้าเบรคไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็จะเป็นอันตรายต่อการขับขี่ อีกทั้งยังส่งผลให้อะไหล่ส่วนอื่นๆ เช่น “จานเบรค” และ “คาลิเปอร์” มีอายุการใช้งานที่สั้นลงได้ด้วย ผู้ขับขี่จึงต้องรู้อาการที่บ่งบอกว่าควรจะเปลี่ยนผ้าเบรคแล้ว โดยคุณสามารถสังเกตได้ง่ายๆ จาก 5 สัญญานเตือนนี้!
1. เบรคแล้วมีเสียงดัง
นี่คือสัญญานเตือนแรกที่สังเกตได้ง่ายที่สุด แต่ก็อันตรายที่สุดเช่นกัน เนื่องจากมันหมายถึงการที่คุณใช้เบรคจนมันใกล้หมดแล้วนั่นเอง ถ้าเวลาเบรคแล้วคุณได้ยินบ่อยเสียงดังอยู่บ่อยๆ คล้ายเสียงโลหะเสียดสีขณะที่เบรค คุณควรนำรถเข้าตรวจสภาพเบรคได้แล้ว แต่มีบางครั้งเช่นกันที่เสียงดังขณะเบรคไม่ได้หมายถึงอาการผ้าเบรคหมด เพราะบางครั้งหลังจากที่คุณขับรถลุยน้ำท่วม อาจเกิดคราบฝุ่นเกาะผ้าเบรคและทำให้เกิดเสียง ซึ่งเสียงดังกล่าวจะหายไปเองหลังการเหยียบเบรค
2. ผ้าเบรคมีความหนาน้อยกว่า 3 มิลลิเมตร
สำหรับวิธีนี้นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีดูผ้าเบรคหมดที่ทำตามได้ง่ายเลย เพียงแค่คุณวัดความหนาของผ้าเบรครถยนต์ หากผ้าเบรคบางลงมากจนมีความหนาน้อยกว่า 3 มิลลิเมตร ควรนำรถไปให้ร้านช่วยดูแล้วเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่ทันที
3. สัญญาณไฟเบรคขึ้นที่หน้าปัด
ถ้ารถของคุณ จู่ๆ ก็มีเครื่องหมายตกใจ (!) ขึ้นโชว์ที่หน้าปัดรถ โดยที่คุณไม่ได้ใช้เบรคมืออยู่ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนอาการผ้าเบรคหมด ถ้าเจอสัญญานเตือนนี้เราขอแนะนำให้รีบนำรถเข้าศูนย์หรืออู่ซ่อมเพื่อตรวจเช็ก เปลี่ยนผ้าเบรคให้ไวก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
4. ต้องเหยียบแป้นเบรคลึกกว่าปกติ
เคยสังเกตกันไหมว่าเวลาที่รถของคุณยังใหม่หรือเพิ่งเปลี่ยนผ้าเบรคมา เวลาที่ขับและเหยียบเบรค คุณไม่ต้องเหยียบเบรคลึกมาก ความเร็วของรถก็ลดลงแล้ว แต่ถ้ารถของคุณต้องเหยียบแป้นเบรคลึกผิดปกติเพื่อให้ระบบเบรคทำงาน นี่อาจเป็นสัญญาณของอาการผ้าเบรคบางหรือใกล้หมด ทางที่ดีเราขอแนะนำให้รีบนำรถไปเข้าศูนย์ซ่อมเพื่อเช็กและเปลี่ยนผ้าเบรคโดยด่วน
5.เหยียบเบรคแล้วพวงมาลัยสั่น
เวลาขับรถแล้วมีเหตุให้ต้องเหยียบเบรค ปกติแล้วแป้นเบรครวมถึงพวงมาลัยจะต้องไม่สั่น แต่ถ้าเหยียบเบรคแล้วแป้นเบรคสั่น พวงมาลัยสั่นแล้วล่ะก็ไม่ดีแน่ เพราะนี่คือสัญญาณเตือนว่าผ้าเบรคเริ่มบางลงจนใกล้หมด ทำให้จานเบรคและหน้ายางสัมผัสกันอย่างไม่สม่ำเสมอ ถ้ารถที่บ้านมีอาการแบบนี้ล่ะก็ ต้องรีบนำรถไปเข้าศูนย์เช็กสภาพแบบด่วนๆ
และนี่ก็คือสาระดีๆ ที่เรานำมาฝากในวันนี้ ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ผ้าเบรครถยนต์นั้นมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 20,000 – 40,000 กม. ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน แต่ในบางครั้งคุณจะมารอให้ถึงระยะไมล์ก่อนก็ดูจะไม่เข้าท่าสักเท่าไหร บางครั้งก็ต้องประเมินตามจริงแล้วเปลี่ยนก่อนกำหนดเพื่อความปลอดภัย หากผ้าเบรคมีอาการบวม หรือเบรคมีกลิ่นไหม้
เพราะเรื่องของรถยนต์ไม่ใช่แค่อะไรก็ได้ แต่นั่นหมายถึงความปลอดภัยของคุณ! หากรถเกิดปัญหาฉุกเฉินกลางทาง ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุรถเสีย รถยางรั่ว รถสตาร์ทไม่ติด หรืออุบัติเหตุรถชน สามารถติดต่อเราได้ นอกจากบริการยางรถยนต์ ยาง suv และยางรถกระบะแล้ว ที่ Dunlop เรามีศูนย์บริการตัวแทนจำหน่ายยางกระจายอยู่ทั่วประเทศ ดูแลช่วยเหลือหากรถของคุณมีปัญหา!