ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อไหร่ ให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ การดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดีจึงเป็นเรื่องจำเป็น โดยหนึ่งในส่วนประกอบพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็คือ น้ำมันเครื่อง ซึ่งเป็นสารหล่อลื่นที่อยู่เบื้องหลังการทำงานของเครื่องยนต์ทั้งหมด ในบทความนี้ดันลอปจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความสำคัญของน้ำมันเครื่อง เวลาที่ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากปล่อยให้น้ำมันเครื่องหมดสภาพการใช้งาน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ขับขี่ทุกคน น้ำมันเครื่องคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร น้ำมันเครื่องเปรียบเสมือนเป็นผู้ดูแล หรือตัวกลางในการทำงานของเครื่องยนต์ทั้งหมด ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีความสำคัญดังนี้ 1. หล่อลื่นชิ้นส่วน หน้าที่หลักของน้ำมันเครื่องคือการสร้างฟิล์มบางๆ เคลือบผิวโลหะของชิ้นส่วนที่ต้องเคลื่อนไหวในเครื่องยนต์ เช่น ลูกสูบ เพลา และข้อเหวี่ยง เพื่อลดการเสียดสีโดยตรง ช่วยป้องกันการสึกหรอ ลดความร้อน และยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้นานยิ่งขึ้น 2. ระบายความร้อนเครื่องยนต์ ขณะเครื่องยนต์ทำงาน จะเกิดความร้อนสะสมจากการเผาไหม้และการเสียดสี โดยน้ำมันเครื่องมีหน้าที่เข้าไปเคลือบชิ้นส่วนต่างๆเพื่อลดการเสียดสี และดูดซับเอาความร้อนออกมาลงสู่อ่างน้ำมันเครื่อง เพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ร้อนจนเกินไป 3. รักษาความสะอาดเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องมีคุณสมบัติในการชะล้างสิ่งสกปรก คราบเขม่า ตะกอน และอนุภาคโลหะขนาดเล็กที่เกิดจากการสึกหรอและเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์ ไปรวมและกรองออกบริเวณไส้กรองน้ำมันเครื่อง ผู้ใช้รถจึงควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่เมื่อถึงเวลากำหนดเสมอ เพื่อคงความสะอาดของน้ำมันเครื่องให้ได้มากที่สุด 4. ป้องกันสนิมการกัดกร่อน ในน้ำมันเครื่องมีสารเพิ่มคุณภาพที่ช่วยป้องกันสนิม (Rust Inhibitor) […]
ถุงลมนิรภัยทำงานอย่างไร จำเป็นต้องมีหรือไม่
เพื่อการขับขี่บนท้องถนนให้ปลอดภัย ทำให้ปัจจุบันรถยนต์ส่วนใหญ่เพิ่มมาตรฐานอีกขั้นด้วย “ถุงลมนิรภัย” (Air Bag) อุปกรณ์เสริมที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลดโอกาสการเกิดเหตุรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารนั่นเอง แต่ผู้ขับขี่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบถึงวิธีการทำงาน และความสำคัญของอุปกรณ์นี้ จึงอาจละเลยหรือปล่อยผ่านไป ซึ่งจริง ๆ หากได้รู้หลักการทำงานแล้ว จะทำให้ผู้ขับขี่ใช้งานถุงลมนิรภัยได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถุงลมนิรภัย คืออะไร อุปกรณ์สำคัญด้านความปลอดภัยของรถยนต์ที่ถัดมาจากเข็มขัดนิรภัยก็คือ ถุงลมนิรภัย ทำหน้าที่เป็นเสมือนหมอนรองผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน แรงกระแทกจากด้านนอกจะส่งสัญญาณให้ถุงลมนิรภัยพองตัวทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารปะทะ หรือกระแทกเข้ากับส่วนต่าง ๆ ในรถยนต์โดยตรง เช่น พวงมาลัย หน้าต่าง และคอนโซลรถ ลดความเสี่ยงการเกิดเหตุรุนแรง ช่วยให้อาการบาดเจ็บของผู้โดยสารจากอุบัติเหตุน้อยลงมากที่สุด ซึ่งลักษณะถุงลมนิรภัยจึงถูกออกแบบมาด้วยวัสดุห่อหุ้มที่มีความยืดหยุ่น เพื่อขยายตัวออกมาได้ไวจากการที่พับเก็บไว้เป็นอย่างดี ตำแหน่งถุงลมนิรภัยอยู่ตรงไหน สำหรับตำแหน่งของถุงลมนิรภัยนั้นจะขึ้นอยู่กับรถยนต์แต่ละรุ่น แตกต่างกันออกไปตามการออกแบบ แต่โดยทั่วไปแล้วจะต้องมีอย่างน้อย ขั้นต่ำ 2 ตำแหน่ง ถ้าเป็นรถยนต์ที่มีราคาสูงขึ้นมาก็จะติดตั้งถุงลมนิรภัย 4-6 ตำแหน่ง หรือบางรุ่นมีมากถึง 8 ตำแหน่ง ซึ่งสามารถเช็กจำนวนถุงลมนิรภัยรถยนต์ของคุณได้จากคู่มือประจำรถยนต์ บอกเลยว่า การทราบตำแหน่งติดตั้งของถุงลมนิรภัยในรถยนต์ จะช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าใจระบบความปลอดภัยมากขึ้น พร้อมรู้จุดที่ต้องดูแลหรือข้อควรระวังการใช้งาน ถุงลมด้านหน้า […]
ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อไหร่ ให้ยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์
เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ การดูแลรักษาเครื่องยนต์ให้อยู่ในสภาพดีจึงเป็นเรื่องจำเป็น โดยหนึ่งในส่วนประกอบพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพก็คือ น้ำมันเครื่อง ซึ่งเป็นสารหล่อลื่นที่อยู่เบื้องหลังการทำงานของเครื่องยนต์ทั้งหมด ในบทความนี้ดันลอปจึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับความสำคัญของน้ำมันเครื่อง เวลาที่ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากปล่อยให้น้ำมันเครื่องหมดสภาพการใช้งาน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ขับขี่ทุกคน น้ำมันเครื่องคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร น้ำมันเครื่องเปรียบเสมือนเป็นผู้ดูแล หรือตัวกลางในการทำงานของเครื่องยนต์ทั้งหมด ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีความสำคัญดังนี้ 1. หล่อลื่นชิ้นส่วน หน้าที่หลักของน้ำมันเครื่องคือการสร้างฟิล์มบางๆ เคลือบผิวโลหะของชิ้นส่วนที่ต้องเคลื่อนไหวในเครื่องยนต์ เช่น ลูกสูบ เพลา และข้อเหวี่ยง เพื่อลดการเสียดสีโดยตรง ช่วยป้องกันการสึกหรอ ลดความร้อน และยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ให้นานยิ่งขึ้น 2. ระบายความร้อนเครื่องยนต์ ขณะเครื่องยนต์ทำงาน จะเกิดความร้อนสะสมจากการเผาไหม้และการเสียดสี โดยน้ำมันเครื่องมีหน้าที่เข้าไปเคลือบชิ้นส่วนต่างๆเพื่อลดการเสียดสี และดูดซับเอาความร้อนออกมาลงสู่อ่างน้ำมันเครื่อง เพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิของเครื่องยนต์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ร้อนจนเกินไป 3. รักษาความสะอาดเครื่องยนต์ น้ำมันเครื่องมีคุณสมบัติในการชะล้างสิ่งสกปรก คราบเขม่า ตะกอน และอนุภาคโลหะขนาดเล็กที่เกิดจากการสึกหรอและเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์ ไปรวมและกรองออกบริเวณไส้กรองน้ำมันเครื่อง ผู้ใช้รถจึงควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องใหม่เมื่อถึงเวลากำหนดเสมอ เพื่อคงความสะอาดของน้ำมันเครื่องให้ได้มากที่สุด 4. ป้องกันสนิมการกัดกร่อน ในน้ำมันเครื่องมีสารเพิ่มคุณภาพที่ช่วยป้องกันสนิม (Rust Inhibitor) โดยเข้าไปยึดเกาะผิวโลหะ […]
ถุงลมนิรภัยทำงานอย่างไร จำเป็นต้องมีหรือไม่
เพื่อการขับขี่บนท้องถนนให้ปลอดภัย ทำให้ปัจจุบันรถยนต์ส่วนใหญ่เพิ่มมาตรฐานอีกขั้นด้วย “ถุงลมนิรภัย” (Air Bag) อุปกรณ์เสริมที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลดโอกาสการเกิดเหตุรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตให้กับทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารนั่นเอง แต่ผู้ขับขี่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบถึงวิธีการทำงาน และความสำคัญของอุปกรณ์นี้ จึงอาจละเลยหรือปล่อยผ่านไป ซึ่งจริง ๆ หากได้รู้หลักการทำงานแล้ว จะทำให้ผู้ขับขี่ใช้งานถุงลมนิรภัยได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ถุงลมนิรภัย คืออะไร อุปกรณ์สำคัญด้านความปลอดภัยของรถยนต์ที่ถัดมาจากเข็มขัดนิรภัยก็คือ ถุงลมนิรภัย ทำหน้าที่เป็นเสมือนหมอนรองผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เมื่อเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน แรงกระแทกจากด้านนอกจะส่งสัญญาณให้ถุงลมนิรภัยพองตัวทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารปะทะ หรือกระแทกเข้ากับส่วนต่าง ๆ ในรถยนต์โดยตรง เช่น พวงมาลัย หน้าต่าง และคอนโซลรถ ลดความเสี่ยงการเกิดเหตุรุนแรง ช่วยให้อาการบาดเจ็บของผู้โดยสารจากอุบัติเหตุน้อยลงมากที่สุด ซึ่งลักษณะถุงลมนิรภัยจึงถูกออกแบบมาด้วยวัสดุห่อหุ้มที่มีความยืดหยุ่น เพื่อขยายตัวออกมาได้ไวจากการที่พับเก็บไว้เป็นอย่างดี ตำแหน่งถุงลมนิรภัยอยู่ตรงไหน สำหรับตำแหน่งของถุงลมนิรภัยนั้นจะขึ้นอยู่กับรถยนต์แต่ละรุ่น แตกต่างกันออกไปตามการออกแบบ แต่โดยทั่วไปแล้วจะต้องมีอย่างน้อย ขั้นต่ำ 2 ตำแหน่ง ถ้าเป็นรถยนต์ที่มีราคาสูงขึ้นมาก็จะติดตั้งถุงลมนิรภัย 4-6 ตำแหน่ง หรือบางรุ่นมีมากถึง 8 ตำแหน่ง ซึ่งสามารถเช็กจำนวนถุงลมนิรภัยรถยนต์ของคุณได้จากคู่มือประจำรถยนต์ บอกเลยว่า การทราบตำแหน่งติดตั้งของถุงลมนิรภัยในรถยนต์ จะช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าใจระบบความปลอดภัยมากขึ้น พร้อมรู้จุดที่ต้องดูแลหรือข้อควรระวังการใช้งาน ถุงลมด้านหน้า […]
ยางแท่นเครื่องเสื่อมสภาพ สัญญาณที่ควรระวังและวิธีการตรวจสอบ

อีกหนึ่งปัญหาที่ผู้ขับขี่รถยนต์อาจจะต้องเผชิญ เมื่ออยู่ๆ รถยนต์ของคุณก็มีอาการสั่นทั้งที่จอดอยู่ หรือเป็นหนักขึ้นขณะขับขี่ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า คุณอาจจะกำลังเจอปัญหายางแท่นเครื่องเสื่อมนั่นเอง ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้! เพื่อความชัวร์คุณสามารถลองตรวจเช็กง่ายๆ แค่สังเกตว่ารถยนต์ของคุณมีอาการผิดปกติตามนี้หรือไม่ ยางแท่นเครื่อง ทำหน้าที่อะไร ก่อนอื่นมารู้จักกับยางแท่นเครื่อง หนึ่งในชิ้นส่วนของระบบเครื่องยนต์ อยู่ตำแหน่งเชื่อมต่อระหว่างเครื่องรถยนต์กับตัวถังรถยนต์ มีหน้าที่สำคัญในการยึดและประคองเครื่องยนต์ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง โดยลักษณะของยางแท่นเครื่องถูกออกแบบมาให้ยืดหยุ่น เพื่อดูดซับแรงสั่นสะเทือน ลดแรงสะบัด ทำให้ควบคุบการขับขี่ได้ดี และป้องกันความเสียหายที่เกิดกับอะไหล่ชิ้นส่วนอื่นๆ เช่น สายพานหรือท่อต่างๆ ที่เชื่อมกับเครื่องยนต์ พร้อมเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ และลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารอีกด้วย ซึ่งรถยนต์แต่ละคันนั้นจะมีลูกยางรองรับหลายลูก แตกต่างกันขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์นั้นๆ แต่ไม่ว่าจะอยู่จุดไหน หากเริ่มเสื่อมสภาพก็จะแสดงอาการผิดปกติออกมาอย่างเห็นได้ชัด ตำแหน่งยางแท่นเครื่อง ตามที่กล่าวข้างต้นแล้วว่า รถยนต์แต่ละรุ่นจะมียางแท่นเครื่องไม่เหมือนกัน แต่โดยส่วนใหญ่มักมี 4 จุด ดังนี้ 1. ติดตั้งไว้ที่ด้านหน้ารถยนต์บริเวณใกล้หม้อน้ำ สำหรับยางแท่นเครื่อง 1 ตัว เพื่อช่วยรองรับน้ำหนักของเครื่องยนต์ส่วนบน และป้องกันเครื่องยนต์กระดกในแนวหน้า-หลัง 2. บริเวณใกล้ผนังห้องเครื่องยนต์ด้านหน้า เพื่อช่วยป้องกันการกระแทกของตัวรถ 3. บริเวณซุ้มล้อหน้าทั้งสองข้าง แถว ๆ สายพานหน้าเครื่องยนต์ จะมีขนาดใหญ่เล็กน้อย ทำหน้าดูดซับแรงสั่นสะเทือนและแรงกระแทกขณะการขับขี่ […]
รถสตาร์ทไม่ติดเกิดจากอะไร แล้วแก้ไขอย่างไรได้บ้าง?
รถสตาร์ทไม่ติด เป็นเหตุการณ์ที่ผู้ใช้รถทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะนอกจากจะทำให้เสียเวลาแล้ว ยังสร้างความกังวลใจให้เราอีกด้วย บทความนี้ DUNLOP จะพาทุกคนไปดูถึงสาเหตุของปัญหารถสตาร์ทไม่ติด พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น และวิธีป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นในอนาคต สาเหตุของรถสตาร์ทไม่ติด และวิธีแก้ไขเบื้องต้น รถสตาร์ทไม่ติดอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย แต่สิ่งแรกที่ผู้ขับขี่ควรทำคือตั้งสติ และค่อยๆตรวจสอบถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากสาเหตุเหล่านี้ 1. แบตเตอรี่หมดหรือเสื่อมสภาพ เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่พบได้บ่อยที่สุด มักเกิดจากการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน หรือพฤติกรรมการใช้งานเช่น รถที่จอดทิ้งไว้ไม่ไดใช้งานนานๆ เผลอเปิดไฟรถทิ้งไว้ หรือไม่ได้ดูน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ ซึ่งผู้ใช้รถสามารถสังเกตอาการได้จาก ไฟแจ้งเตือนแบตเตอรี่บนหน้าปัด ไฟหน้าปัดอ่อน หรือสตาร์ทรถไม่ติดเลย วิธีแก้ไขเบื้องต้นคือ ทำการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ โดยใช้สายจั๊มพ์แบตเชื่อมเข้ากันระหว่างแบตเตอรี่ของรถคันที่แบตหมด และรถที่มาช่วยจัมพ์แบต เพื่อถ่ายเทประจุไฟฟ้าให้แบตเตอรี่กลับมาใช้ได้ชั่วคราว แต่วิธีนี้มีขั้นตอนที่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะถ้าหากทำไม่ถูกวิธีอาจทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรและส่งผลเสียต่อตัวรถและผู้ใช้รถได้ 2. ขั้วแบตเตอรี่สกปรก ขั้วแบตเตอรี่คือหัวใจสำคัญในการจ่ายไฟให้กับระบบไฟฟ้าในรถยนต์ทั้งหมด หากไม่ค่อยได้ดูแลความสะอาด มักเกิดคราบขี้เกลือหรือคราบกรดขึ้นได้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายผงแป้งสีขาวหรือสีฟ้าเกาะอยู่รอบๆบริเวณขั้วแบตเตอรี่ หากปล่อยทิ้งไว้คราบเหล่านี้จะไปปิดกั้นการจ่ายกระแสไฟฟ้า ไม่ให้ไหลผ่านขั้วแบตเตอรี่ ส่งผลให้รถสตาร์ทไม่ติดได้ด้วยเช่นกัน วิธีแก้ไขคือ นำน้ำร้อนไปเทลงบริเวณคราบขี้เกลือให้ทั่วแบตเตอรี่ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดออกให้สะอาด โดยหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าแห้งเพราะอาจทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ 3. ไดสตาร์ทเสีย ไดสตาร์ทคืออุปกรณ์ทำหน้าที่สตาร์ทเครื่องยนต์โดยเฉพาะ โดยต่อตรงมาจากแบตเตอรี่ […]
ยางแท่นเครื่องเสื่อมสภาพ สัญญาณที่ควรระวังและวิธีการตรวจสอบ
อีกหนึ่งปัญหาที่ผู้ขับขี่รถยนต์อาจจะต้องเผชิญ เมื่ออยู่ๆ รถยนต์ของคุณก็มีอาการสั่นทั้งที่จอดอยู่ หรือเป็นหนักขึ้นขณะขับขี่ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า คุณอาจจะกำลังเจอปัญหายางแท่นเครื่องเสื่อมนั่นเอง ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้! เพื่อความชัวร์คุณสามารถลองตรวจเช็กง่ายๆ แค่สังเกตว่ารถยนต์ของคุณมีอาการผิดปกติตามนี้หรือไม่ ยางแท่นเครื่อง ทำหน้าที่อะไร ก่อนอื่นมารู้จักกับยางแท่นเครื่อง หนึ่งในชิ้นส่วนของระบบเครื่องยนต์ อยู่ตำแหน่งเชื่อมต่อระหว่างเครื่องรถยนต์กับตัวถังรถยนต์ มีหน้าที่สำคัญในการยึดและประคองเครื่องยนต์ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง โดยลักษณะของยางแท่นเครื่องถูกออกแบบมาให้ยืดหยุ่น เพื่อดูดซับแรงสั่นสะเทือน ลดแรงสะบัด ทำให้ควบคุบการขับขี่ได้ดี และป้องกันความเสียหายที่เกิดกับอะไหล่ชิ้นส่วนอื่นๆ เช่น สายพานหรือท่อต่างๆ ที่เชื่อมกับเครื่องยนต์ พร้อมเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ และลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารอีกด้วย ซึ่งรถยนต์แต่ละคันนั้นจะมีลูกยางรองรับหลายลูก แตกต่างกันขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์นั้นๆ แต่ไม่ว่าจะอยู่จุดไหน หากเริ่มเสื่อมสภาพก็จะแสดงอาการผิดปกติออกมาอย่างเห็นได้ชัด ตำแหน่งยางแท่นเครื่อง ตามที่กล่าวข้างต้นแล้วว่า รถยนต์แต่ละรุ่นจะมียางแท่นเครื่องไม่เหมือนกัน แต่โดยส่วนใหญ่มักมี 4 จุด ดังนี้ 1. ติดตั้งไว้ที่ด้านหน้ารถยนต์บริเวณใกล้หม้อน้ำ สำหรับยางแท่นเครื่อง 1 ตัว เพื่อช่วยรองรับน้ำหนักของเครื่องยนต์ส่วนบน และป้องกันเครื่องยนต์กระดกในแนวหน้า-หลัง 2. บริเวณใกล้ผนังห้องเครื่องยนต์ด้านหน้า เพื่อช่วยป้องกันการกระแทกของตัวรถ 3. บริเวณซุ้มล้อหน้าทั้งสองข้าง แถว ๆ สายพานหน้าเครื่องยนต์ จะมีขนาดใหญ่เล็กน้อย ทำหน้าดูดซับแรงสั่นสะเทือนและแรงกระแทกขณะการขับขี่ […]
รถสตาร์ทไม่ติดเกิดจากอะไร แล้วแก้ไขอย่างไรได้บ้าง?
รถสตาร์ทไม่ติด เป็นเหตุการณ์ที่ผู้ใช้รถทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะนอกจากจะทำให้เสียเวลาแล้ว ยังสร้างความกังวลใจให้เราอีกด้วย บทความนี้ DUNLOP จะพาทุกคนไปดูถึงสาเหตุของปัญหารถสตาร์ทไม่ติด พร้อมวิธีแก้ไขเบื้องต้น และวิธีป้องกันไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นในอนาคต สาเหตุของรถสตาร์ทไม่ติด และวิธีแก้ไขเบื้องต้น รถสตาร์ทไม่ติดอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย แต่สิ่งแรกที่ผู้ขับขี่ควรทำคือตั้งสติ และค่อยๆตรวจสอบถึงสาเหตุที่เป็นไปได้ โดยส่วนใหญ่มักเกิดจากสาเหตุเหล่านี้ 1. แบตเตอรี่หมดหรือเสื่อมสภาพ เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งที่พบได้บ่อยที่สุด มักเกิดจากการเสื่อมสภาพตามอายุการใช้งาน หรือพฤติกรรมการใช้งานเช่น รถที่จอดทิ้งไว้ไม่ไดใช้งานนานๆ เผลอเปิดไฟรถทิ้งไว้ หรือไม่ได้ดูน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ ซึ่งผู้ใช้รถสามารถสังเกตอาการได้จาก ไฟแจ้งเตือนแบตเตอรี่บนหน้าปัด ไฟหน้าปัดอ่อน หรือสตาร์ทรถไม่ติดเลย วิธีแก้ไขเบื้องต้นคือ ทำการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ โดยใช้สายจั๊มพ์แบตเชื่อมเข้ากันระหว่างแบตเตอรี่ของรถคันที่แบตหมด และรถที่มาช่วยจัมพ์แบต เพื่อถ่ายเทประจุไฟฟ้าให้แบตเตอรี่กลับมาใช้ได้ชั่วคราว แต่วิธีนี้มีขั้นตอนที่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะถ้าหากทำไม่ถูกวิธีอาจทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรและส่งผลเสียต่อตัวรถและผู้ใช้รถได้ 2. ขั้วแบตเตอรี่สกปรก ขั้วแบตเตอรี่คือหัวใจสำคัญในการจ่ายไฟให้กับระบบไฟฟ้าในรถยนต์ทั้งหมด หากไม่ค่อยได้ดูแลความสะอาด มักเกิดคราบขี้เกลือหรือคราบกรดขึ้นได้ ซึ่งมีลักษณะคล้ายผงแป้งสีขาวหรือสีฟ้าเกาะอยู่รอบๆบริเวณขั้วแบตเตอรี่ หากปล่อยทิ้งไว้คราบเหล่านี้จะไปปิดกั้นการจ่ายกระแสไฟฟ้า ไม่ให้ไหลผ่านขั้วแบตเตอรี่ ส่งผลให้รถสตาร์ทไม่ติดได้ด้วยเช่นกัน วิธีแก้ไขคือ นำน้ำร้อนไปเทลงบริเวณคราบขี้เกลือให้ทั่วแบตเตอรี่ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดออกให้สะอาด โดยหลีกเลี่ยงการใช้ผ้าแห้งเพราะอาจทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ 3. ไดสตาร์ทเสีย ไดสตาร์ทคืออุปกรณ์ทำหน้าที่สตาร์ทเครื่องยนต์โดยเฉพาะ โดยต่อตรงมาจากแบตเตอรี่ […]
เลือกยาง SUV หรือยางสำหรับรถอเนกประสงค์ ให้เหมาะกับสไตล์การขับขี่
ยาง SUV คืออะไร? ยาง SUV คือยางที่ถูกออกแบบมาเพื่อรถ SUV หรือรถอเนกประสงค์โดยเฉพาะ โดยคำว่า SUV ย่อมาจาก Sports Utility Vehicle แปลว่า รถสปอร์ตอเนกประสงค์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย สมบึกสมบันแต่มีดีไซน์สปอร์ตสวยงาม ครอบคลุมไปถึงรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย 4 ล้อ ซึ่งเป็นรถอีกประเภทหนึ่งที่ผู้ขับขี่นิยมเลือกใช้กันมาก ดังนั้นการเลือกยาง SUV ให้เหมาะสมนั้น ไม่เพียงแค่เลือกให้เหมาะกับประเภทรถของเรา แต่ต้องเลือกให้เหมาะกับสไตล์การขับขี่ด้วย เนื่องจากในปัจจุบันมีการผลิตยาง SUV ออกมาหลากหลายรูปแบบ เพื่อจุดประสงค์การใช้งานที่แตกต่างกัน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องเลือกยางให้ตอบโจทย์การใช้งานเพื่อประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด ทำความรู้จักประเภทของยาง SUV ก่อนเลือกใช้งาน ปัจจุบัน ยาง SUV ถูกออกแบบและพัฒนามาหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันดังนี้ 1. ยาง SUV กลุ่ม All Terrain (AT) เป็นยางที่รองรับการใช้งานบนทุกสภาพถนน ไม่ว่าจะเป็นทางเรียบ ทางขรุขระ ถนนลูกรัง พื้นถนนคอนกรีตหรืออฟโรดเบาๆ ด้วยโครงสร้างที่มีความทนทาน […]
เลือกยางรถกระบะ ให้เหมาะกับการใช้งานของคุณ
หากพูดถึงรถยอดนิยมในประเทศไทยที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย คงหนีไม่พ้นรถกระบะ เพราะไม่ว่าจะเป็นใช้เดินทางทั่วไป ขนของหรือลุยวิบาก รถกระบะล้วนตอบโจทย์ได้ทั้งสิ้น และที่สำคัญคือแข็งแกร่ง ทนทานมากกว่ารถประเภทอื่นๆ จึงถูกเลือกมาใช้เป็นจำนวนมาก และด้วยความสามารถในการใช้งานที่หลากหลายนี้ ปัจจุบันจึงมียางรถกระบะให้เลือกมากมายตามวัตถุประสงค์การขับขี่ ดันลอปจึงจะพาทุกท่านไปดูวิธีการเลือกยางรถกระบะว่าควรเลือกอย่างไรให้เหมาะกับการใช้งาน เทคนิคการเลือกยางรถกระบะให้ตอบโจทย์การใช้งาน 1. เลือกขนาดยางให้เหมาะสมกับรถ การเลือกยางรถกระบะให้พอดี ผู้ขับขี่สามารถอ้างอิงขนาดยางที่เหมาะสมได้จากคู่มือรถ หรือสติกเกอร์แนะนำยางรถยนต์ ซึ่งมักถูกติดอยู่บริเวณประตูฝั่งคนขับหรือฝาถังน้ำมัน ยกตัวอย่างเช่น มีขนาดยางที่เหมาะสมคือ 245/65R17 โดยสามารถอธิบายเลขและตัวอักษรต่างๆได้ดังนี้ เลข 245 คือ ความกว้างของหน้ายางโดยมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร เลข 65 คือ อัตราส่วนความสูงของแก้มยางต่อความกว้างหน้ายางโดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ ตัวอักษร R คือ โครงสร้างของยางแบบเรเดียล ซึ่งเป็นโครงสร้างที่นิยมใช้ในปัจจุบัน เลข 17 คือเส้นผ่านศูนย์กลางของล้อ เพื่อบ่งบอกถึงขนาดกระทะล้อที่สามารถใส่ได้ โดยมีหน่วยเป็นนิ้ว 2. เลือกประเภทของยางรถกระบะให้ตรงตามวัตถุประสงค์การใช้งาน โดยทั่วไปยางรถกระบะ ถูกแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลักแตกต่างไปตามการใช้งานดังนี้ All-Terrain (A/T) เป็นยางอเนกประสงค์ใช้ได้กับทั้งการขับขี่บนถนนทั่วไปหรือออฟโรดเบาๆ ด้วยดอกยางที่มักถูกออกแบบมาให้มีความหนาใหญ่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะได้ดีมากยิ่งขึ้น […]