อีกหนึ่งปัญหาที่ผู้ขับขี่รถยนต์อาจจะต้องเผชิญ เมื่ออยู่ๆ รถยนต์ของคุณก็มีอาการสั่นทั้งที่จอดอยู่ หรือเป็นหนักขึ้นขณะขับขี่ นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนว่า คุณอาจจะกำลังเจอปัญหายางแท่นเครื่องเสื่อมนั่นเอง ซึ่งหากปล่อยไว้อาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้! เพื่อความชัวร์คุณสามารถลองตรวจเช็กง่ายๆ แค่สังเกตว่ารถยนต์ของคุณมีอาการผิดปกติตามนี้หรือไม่
ยางแท่นเครื่อง ทำหน้าที่อะไร
ก่อนอื่นมารู้จักกับยางแท่นเครื่อง หนึ่งในชิ้นส่วนของระบบเครื่องยนต์ อยู่ตำแหน่งเชื่อมต่อระหว่างเครื่องรถยนต์กับตัวถังรถยนต์ มีหน้าที่สำคัญในการยึดและประคองเครื่องยนต์ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง โดยลักษณะของยางแท่นเครื่องถูกออกแบบมาให้ยืดหยุ่น เพื่อดูดซับแรงสั่นสะเทือน ลดแรงสะบัด ทำให้ควบคุบการขับขี่ได้ดี และป้องกันความเสียหายที่เกิดกับอะไหล่ชิ้นส่วนอื่นๆ เช่น สายพานหรือท่อต่างๆ ที่เชื่อมกับเครื่องยนต์ พร้อมเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ และลดเสียงรบกวนในห้องโดยสารอีกด้วย
ซึ่งรถยนต์แต่ละคันนั้นจะมีลูกยางรองรับหลายลูก แตกต่างกันขึ้นอยู่กับรุ่นรถยนต์นั้นๆ แต่ไม่ว่าจะอยู่จุดไหน หากเริ่มเสื่อมสภาพก็จะแสดงอาการผิดปกติออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ตำแหน่งยางแท่นเครื่อง
ตามที่กล่าวข้างต้นแล้วว่า รถยนต์แต่ละรุ่นจะมียางแท่นเครื่องไม่เหมือนกัน แต่โดยส่วนใหญ่มักมี 4 จุด ดังนี้
1. ติดตั้งไว้ที่ด้านหน้ารถยนต์บริเวณใกล้หม้อน้ำ สำหรับยางแท่นเครื่อง 1 ตัว เพื่อช่วยรองรับน้ำหนักของเครื่องยนต์ส่วนบน และป้องกันเครื่องยนต์กระดกในแนวหน้า-หลัง
2. บริเวณใกล้ผนังห้องเครื่องยนต์ด้านหน้า เพื่อช่วยป้องกันการกระแทกของตัวรถ
3. บริเวณซุ้มล้อหน้าทั้งสองข้าง แถว ๆ สายพานหน้าเครื่องยนต์ จะมีขนาดใหญ่เล็กน้อย ทำหน้าดูดซับแรงสั่นสะเทือนและแรงกระแทกขณะการขับขี่
4. บริเวณสุดท้ายคือเสื้อเกียร์ รองรับแรงสั่นจากระบบส่งกำลังของเครื่องยนต์ ช่วยป้องกันการโยกเซซ้าย-ขวาขณะขับขี่ พร้อมเสริมการป้องกันกระดกหน้า-หลังไปในตัว
สังเกตสัญญาณเตือนยางแท่นเครื่องเสื่อมสภาพ
เมื่อยางแท่นเครื่องเสียหรือเริ่มเสื่อมสภาพ คุณจะสามารถสังเกตอาการผิดปกติได้ง่ายๆ ผ่านการสั่นสะเทือนหรือเสียงผิดปกติขณะขับขี่ เช่นอาการต่อไปนี้
ตัวถังหรือรถมีอาการสั่นผิดปกติแม้จอดอยู่
แค่เพียงเปิดแอร์เครื่องก็สั่นแล้ว นี่เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด เพราะพอยางแท่นเครื่องเสื่อมสภาพ ก็จะไม่สามารถลดการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ได้เต็มประสิทธิภาพ ทำให้เกิดเป็นแรงสั่นภายในห้องโดยสารได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นขณะที่รถจอดสนิทหรือเมื่อเร่งเครื่อง และจะยิ่งสั่นรุนแรงมากขึ้นเมื่อเริ่มขับขี่ จนไปถึงพวงมาลัยเลยทีเดียว
เครื่องยนต์กระชากเมื่อสตาร์ทรถ หรือกระตุกตอนเข้าเกียร์
หากรู้สึกว่ารถมีอาการกระชากมากกว่าปกติ ทั้งๆ ที่รอบเดินเครื่องเบากว่าปกติแต่อาการสั่นนั้นกลับรุนแรง หรือจังหวะเปลี่ยนจากเกียร์ว่างเป็นเกียร์เดินหน้า-ถอยหลัง เครื่องยนต์อาจมีอาการสะดุด หรือกระตุกในจัวหวะปล่อยคัตช์แม้จะพยายามเข้าเกียร์แบบนุ่มนวลแล้วก็ตาม นี่คือหนึ่งในอาการที่บ่งบอกว่ายางแท่นเครื่องกำลังมีปัญหา ควรรีบนำรถยนต์เข้าตรวจเช็กทันที
มีเสียงดังหรือเสียงดังผิดปกติขณะเปลี่ยนเกียร์
ดังที่กล่าวข้างต้นว่า หนึ่งในยางแท่นเครื่องอยู่ตำแหน่งบริเวณเสื้อเกียร์ เป็นผลให้เกิดเสียงดังแก็กๆ ระหว่างการเปลี่ยนเกียร์หรือเร่งเครื่อง เนื่องจากเครื่องยนต์นั้นเคลื่อนไหวมากขึ้นกว่าปกติ เพราะตัวยางไม่สามารถยึดเครื่องยนต์หรือรองรับแรกกระแทกได้ดีอีกต่อไป
เครื่องยนต์เอียง
อาการนี้ถือว่าค่อนข้างเสี่ยงและมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุสูงต่อการขับขี่ โดยผู้ขับขี่สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า หากจอดรถบนพื้นเรียบ รถยนต์จะมีการเอียงไปด้านใดด้านหนึ่งอย่างชัดเจน
เกิดเสียงคล้ายโลหะกระแทกกันอยู่
กรณีนี้จะแสดงอาการต่อเมื่อยางแท่นเครื่องอยู่ในสภาวะเสื่อมสภาพมาก เพราะไม่สามารถรองรับการเคลื่อนไหวของเครื่องยนต์ได้อีกต่อไป โดยเฉพาะขณะที่เร่งเครื่อง, ขับขี่บนถนนทางขรุขระ ตกหลุมหรือแม้แต่เบรกกะทันหัน คุณจะได้ยินเป็นเสียงเหมือนโลหะกระแทกชัดมากขึ้น นั่นคือเสียงการกระแทกระหว่างชิ้นส่วนของเครื่องยนต์กับโครงรถ ควรรีบนำรถยนต์เข้าตรวจเช็กให้เร็วที่สุด
ตรวจเช็กได้อย่างไรว่ายางแท่นเครื่องเสีย?
หากรถยนต์ของคุณเริ่มส่งสัญญาณดังที่กล่าวไปข้างต้น สามารถตรวจสอบได้ด้วยตาเปล่าหรือการสังเกต โดยการโยกเครื่องยนต์หรือเปิดฝากระโปรงรถ พร้อมกับเช็กดูว่ามีรอยร้าวปริ, แข็งตัวหรือบวมผิดปกติของยางแท่นเครื่อง บางจุดสามารถก้มส่องได้ แต่บางตำแหน่งอาจจะต้องยกรถยนต์โดยศูนย์บริการรถยนต์ และยิ่งหากแรงสั่นสะเทือนมากขึ้น เครื่องยนต์เสียงดังกว่าเดิม หรือเกิดอาการกระตุกของเครื่องรุนแรง ควรนำรถยนต์เข้าศูนย์บริการให้ช่างผู้เชี่ยวชาญดูแลโดยตรงทันที
สาเหตุที่ทำให้เสื่อมเร็ว
สาเหตุหลักๆ มาจากความร้อนสูงของเครื่องยนต์ จนแผ่ไปถึงยางแท่นเครื่องจนสะสมเรื่อยๆ ทำให้ยางค่อยๆ แข็งตัวและสูญเสียความยืดหยุ่นจนไม่สามารถซับแรงสั่นสะเทือนได้อีกต่อไป หรือมีลักษณะการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็น
- การใช้งานอย่างต่อเนื่องด้วยการขับในระยะทางไกลบ่อยๆ
- ใช้รถยนต์บรรทุกของน้ำหนักมาก
- ขับรถในสภาพถนนขรุขระ ลูกรัง
- ขับขี่บนถนนที่มีหลุมบ่อหรือกระแทกแรงๆ จะทำให้โครงสร้างของยางแตกหรือฉีกขาดได้ง่ายกว่าเดิม
ยางแท่นเครื่องเสื่อมอันตรายหากไม่เปลี่ยน
เมื่อตัวยางแท่นเครื่องที่ไม่สามารถดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้อีกต่อไป ย่อมส่งผลให้เครื่องยนต์รับแรงกระแทกมากขึ้นจากการขับขี่ ทำให้สึกหรอเร็วกลายเป็นปัญหาใหญ่ขึ้น ต้องเสียเงินบำรุงอะไหล่เพิ่มขึ้น และยังมีโอกาสได้รับอันตรายจากอุบัติเหตุ ดังนี้
- เมื่อแรงสั่นสะเทือนเพิ่มมากขึ้นกว่าเท่าตัว ก็จะส่งผลไปถึงระบบช่วงล่างและพวงมาลัยรับแรงกระแทกโดยตรง เช่น ส่วนของโช้คอัพ สปริง ลูกหมาก ลูกปืน บูชต่างๆ เสื่อมสภาพและเสียหายเร็วกว่าอายุที่ควรจะเป็น กลายเป็นเพิ่มอันตรายในการขับขี่มากขึ้น
- การเร่งความเร็วหรือเปลี่ยนเกียร์ ไม่สมูทและควบคุมการขับขี่ยากขึ้น จากแรงกระตุกและแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
- สิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงมากกว่าเก่า เนื่องจากเครื่องยนต์ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อรับมือกับแรงสั่นสะเทือน
อายุของยางแท่นเครื่อง เมื่อไหร่ควรเปลี่ยน?
โดยปกติแล้วอายุการใช้งานของยางแท่นเครื่องอยู่ประมาณ 5 ปี หรือระยะทางการใช้งานที่ 100,000 กิโลเมตร แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพการขับขี่ของคุณ เช่น สภาพถนน ความถี่การตรวจสอบอายุ และระยะทางการใช้งานการขับขี่
เริ่มแรกคุณสามารถวางแผนการเปลี่ยนได้จากระยะทางการใช้งานว่าเกินที่ 100,000 กิโลเมตรหรือไม่ แต่หากพบสัญญาณเตือนตามที่กล่าวข้างต้น ไม่ว่าจะอาการสั่นสะเทือนของเครื่องยนต์ ส่งเสียงดัง หรือกระตุกในขณะขับขี่ ควรรีบนำรถเข้าตรวจเช็กที่ศูนย์บริการ หรือควรตรวจเช็กเป็นประจำตามระยะที่กำหนด เพื่อแก้ไขและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ให้การขับขี่ของคุณมั่นใจปลอดภัยทุกการเดินทาง