“แบตเตอรี่รถยนต์” อะไหล่ชิ้นสำคัญของรถยนต์คันโปรดของเรา เชื่อได้เลยว่า หลายคนคงเคยเจอปัญหา “สตาร์ทรถไม่ติด” ยามเช้าตรู่ หรือ “แบตหมดกลางทาง” ระหว่างขับขี่ เหตุการณ์นี้สร้างความหงุดหงิด เสียเวลา และอาจส่งผลต่อแผนการต่างๆ 

โดยสาเหตุหลักๆ ของแบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพมาจากพฤติกรรมการขับขี่ สภาพอากาศร้อนจัด การใช้งานหนัก และการชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ บนรถ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า แบตเตอรี่รถยนต์ของเราเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว? วันนี้ดันลอปมีเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับ “แบตเตอรี่รถยนต์“  มาบอกต่อครับ รับรองว่าอ่านจบแล้ว เพื่อนๆ จะสามารถสังเกตอาการเพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์แบตเตอรี่เสื่อม และเลือกซื้อแบตเตอรี่ที่เหมาะกับรถยนต์เราได้อย่างมั่นใจแน่นอน 

มาทำความรู้จักกับบทบาทสำคัญของแบตเตอรี่รถยนต์กันก่อน

แบตเตอรี่ คือ แหล่งพลังงานไฟฟ้าสำรอง เปรียบเสมือนหัวใจสำคัญของรถยนต์ ทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้าจากไดชาร์จ ไดชาร์จจะทำหน้าที่เปลี่ยนพลังงานกลจากเครื่องยนต์เป็นพลังงานไฟฟ้าเก็บไว้ที่แบตเตอรี่ ดังนั้น เมื่อเราสตาร์ทเครื่องยนต์ แบตเตอรี่จะจ่ายไฟให้กับระบบไฟฟ้าต่างๆ ภายในรถ เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟภายในรถ ระบบเครื่องเสียง แอร์ ฯลฯ

แบตเตอรี่มีกี่ประเภท อะไรบ้าง

เจาะลึกถึงประเภทของแบตเตอรี่รถยนต์กันแบบละเอียดๆ ว่าแบตเตอรี่รถยนต์มีกี่ประเภท? แต่ละแบบมีจุดเด่น จุดด้อยอย่างไร? ต่อไปนี้จะขอพาทุกคนไปไขข้อสงสัยเหล่านี้กันแบบหมดเปลือก เตรียมตัวจดโน้ตให้พร้อม แล้วไปดูกันเลยว่า แบตเตอรี่รถยนต์แต่ละประเภท มีอะไรน่าสนใจกันบ้าง

• แบตเตอรี่น้ำ (Conventional Battery)

แบตเตอรี่แบบน้ำ เป็นแบตเตอรี่แบบดั้งเดิมที่มีมานาน เรียกว่าอยู่คู่กับรถยนต์มาหลายยุคสมัย เปรียบเสมือนเพื่อนเก่าแก่ที่แสนคุ้นเคย หลายคนอาจจะเคยใช้ หรือยังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน มีจุดเด่นคือ ราคาประหยัด หาซื้อง่าย เหมาะกับรถที่ใช้งานทั่วไป แต่แบตเตอรี่น้ำก็มีข้อเสียที่ต้องดูแลเอาใจใส่มากกว่าแบตเตอรี่ชนิดอื่นๆ เพราะต้องเติมน้ำกลั่นเป็นประจำเนื่องจากมีการสูญเสียน้ำกลั่นค่อนข้างสูง หากปล่อยให้น้ำกลั่นแห้งแบตเตอรี่จะเสื่อมสภาพไว

• แบตเตอรี่กึ่งแห้ง (Maintenance Free Battery)

แบตเตอรี่กึ่งแห้ง นั้นพัฒนาต่อยอดมาจากแบตเตอรี่น้ำรุ่นคลาสสิก โดยมีจุดเด่นที่คล้ายกันคือ ไม่ต้องดูแลรักษามากนัก แตกต่างกันตรงที่มีรูสำหรับเติมน้ำกลั่นเพิ่มเติม แล้วทำไมต้องเติมน้ำกลั่นด้วยล่ะ?  จริงๆ แล้วแบตเตอรี่กึ่งแห้งมีการระบายแก๊สไฮโดรเจน ออกสู่ชั้นบรรยากาศอยู่เสมอ เพียงแต่ระเหยช้ากว่าแบตเตอรี่น้ำ ซึ่งข้อดีคือ ใช้งานสะดวก ไม่ต้องดูแลรักษามาก ประหยัดเวลา ประหยัดแรง แต่ข้อเสียคือ ราคาจะสูงกว่าแบตเตอรี่น้ำนิดหน่อย เอาเป็นว่าใครกำลังมองหาแบตเตอรี่ที่ใช้งานง่าย ไม่จุกจิก แบตเตอรี่กึ่งแห้งก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

• แบตเตอรี่แห้ง (Sealed Maintenance Free Battery)

แบตเตอรี่แบบแห้ง ต่างจากแบตเตอรี่ทั่วไปตรงที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน ฟังดูดีใช่ไหมล่ะครับ?  แต่แบตเตอรี่แบบนี้ไม่ได้แห้งสนิทตามชื่อนะ ภายในยังมีของเหลวสำหรับทำปฏิกิริยาเพียงแต่ถูกปิดผนึกมิดชิด สามารถใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องเติมน้ำกลั่นเพิ่ม เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสะดวก ไม่ต้องคอยดูแลรักษา ใช้งานทนทาน และไม่กังวลเรื่องความปลอดภัย แต่ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่า 

• แบตเตอรี่ไฮบริด (Hybrid Battery)

แบตเตอรี่แบบไฮบริด เป็นลูกผสมของแบตเตอรี่แบบกึ่งแห้งและน้ำ ที่รวมเอาข้อดีของแบตเตอรี่แบบกึ่งแห้งและน้ำเข้าด้วยกัน เรียกว่าได้ครบ จบในก้อนเดียว ด้วยขนาดใหญ่กว่าแบตเตอรี่ทั่วไปจึงเหมาะกับรถที่ใช้งานหนัก เช่น รถบรรทุก รถโดยสาร หรือรถรับจ้าง โดยมีจุดเด่น คือ พลัง CCA สูง จ่ายไฟได้แรง สตาร์ทติดง่าย แม้จะจอดทิ้งไว้นานๆ อีกทั้งยังทนทาน อายุการใช้งานยาวนาน และที่สำคัญเติมน้ำกลั่นเพียง 6-9 เดือนต่อครั้ง  ซึ่งน้อยกว่าแบตเตอรี่น้ำ ด้วยประสิทธิภาพและความทนทาน แบตเตอรี่ไฮบริดจึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ คาดการณ์ว่าในอนาคต แบตเตอรี่น้ำอาจถูกแทนที่ด้วยแบตเตอรี่ไฮบริดทั้งหมด และหากใครที่กำลังมองหาแบตเตอรี่ใหม่ แบตเตอรี่ไฮบริดก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวครับ

สาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพเร็ว

ปัญหานี้หลายคนคงเคยเจอ แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพเร็ว เปลี่ยนใหม่ปุ๊บ ไม่นานก็ต้องโบกมือลาอีกแล้ว เปลี่ยนทีก็หลายพัน เสียเงินก็เยอะ แถมเสียเวลาอีกต่างหาก เป็นปัญหาที่สร้างความรำคาญใจให้กับผู้ใช้รถยนต์ไม่น้อย วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจ ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์ของเราเสื่อมสภาพ

• อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์

แบตเตอรี่รถยนต์ก็เหมือนกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่มีอายุการใช้งาน โดยทั่วไปแล้วแบตเตอรี่รถยนต์จะมีอายุการใช้งานประมาณ 2-3 ปี แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพอากาศ การใช้งาน และประเภทของแบตเตอรี่ด้วย

• สภาพอากาศ

ประเทศไทยขึ้นชื่อเรื่องอากาศร้อน แดดแรง แน่นอนว่าสิ่งของต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้กัน หนึ่งในนั้นก็คือ “แบตเตอรี่รถยนต์” ของเรานั่นเอง หลายคนอาจจะสงสัยว่า แดดร้อนเกี่ยวอะไรกับแบตเตอรี่? จริงๆ แล้ว ความร้อนจากแสงแดดนั้นส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของแบตเตอรี่โดยตรง ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

• การใช้งานที่ผิดวิธี

ชอบเปิดไฟรถทิ้งไว้ตอนดับเครื่องยนต์ ชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ข้ามคืน หรือใช้รถน้อยจนแบตเตอรี่ไม่ได้ใช้งานบ่อยๆ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ รับรองว่า แบตเตอรี่รถของคุณก็จะอยู่ทน ใช้งานได้ยาวนานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเสื่อมเร็ว 

• ปัญหาภายในรถ

ไฟหน้ารถก็เริ่มหรี่ลง เครื่องเสียงเริ่มอืดๆ พวงมาลัยไฟฟ้าเริ่มทำงานช้าลง สัญญาณเตือนแบตเตอรี่โชว์ไฟ อาการเหล่านี้บ่งบอกได้ว่า “ระบบไฟฟ้าในรถของคุณอาจมีปัญหา” สาเหตุของปัญหาไฟฟ้าในรถนั้นมีมากมาย แต่ที่พบบ่อยๆ ก็คือ ไดชาร์จเสีย หรือ ขั้วต่อแบตเตอรี่มีสนิม ซึ่งทั้งสองสาเหตุนี้  ล้วนส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของแบตเตอรี่ ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว ไฟในรถไม่เพียงพอและอาจทำให้รถสตาร์ทไม่ติดได้ในที่สุด

เมื่อรู้สาเหตุกันแล้ว เพื่อนๆ ก็สามารถดูแลรักษาแบตเตอรี่รถยนต์ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ประหยัดเงินในกระเป๋า และไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยๆ อีกต่อไป

สัญญาณเตือนแบตเตอรี่เริ่มเสื่อมสภาพมีอะไรบ้าง?

• สตาร์ทยาก : เครื่องยนต์สตาร์ทติดยาก หรือ ต้องใช้เวลาสตาร์ทนานกว่าปกติ
• ไฟแบตเตอรี่อ่อน : ไฟหน้ารถหรี่ลง หรือ แตรรถดังอ่อน
• ไฟเตือนแบตเตอรี่ : บนหน้าปัดรถยนต์มีไฟเตือนแบตเตอรี่
• อายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ : รถยนต์ทั่วไปจะมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่รถยนต์ประมาณ 2-3 ปี หากแบตเตอรี่ที่ใช้งานมานาน ควรเริ่มสังเกตสัญญาณเตือนต่างๆ และเตรียมเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

เมื่อทราบสาเหตุและสัญญาณเตือนแล้ว เราจะป้องกันแบตเตอรี่ไม่ให้เสื่อมสภาพเร็วได้อย่างไร?

• เลือกซื้อแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพ : เลือกซื้อแบตเตอรี่จากร้านค้าที่เชื่อถือได้ และ เลือกขนาดที่เหมาะสมกับรถยนต์
• ดูแลรักษาแบตเตอรี่อย่างถูกวิธี : ตรวจเช็คสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำ ขันน็อตขั้วต่อให้แน่น ทำความสะอาดขั้วต่อจากคราบสกปรก และ หลีกเลี่ยงการจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน
• ตรวจเช็คระบบไฟฟ้าภายในรถ : ควรตรวจเช็คสภาพระบบไฟฟ้าภายในรถเป็นประจำ โดยเฉพาะไดชาร์จ เพื่อป้องกันปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร
• ชาร์จไฟแบตเตอรี่อย่างถูกต้อง : ควรชาร์จไฟแบตเตอรี่ด้วยเครื่องชาร์จที่มีมาตรฐาน และ หลีกเลี่ยงการชาร์จไฟจนเกิน

วิธีเลือกซื้อแบตเตอรี่แบบไหนที่เหมาะกับรถของคุณ?

เคยมั้ย? เวลาไปเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ เลือกไม่ถูก! เนื่องจากแบตเตอรี่มีหลายแบบ หลายยี่ห้อ หลายราคา แล้วแบบไหนที่เหมาะกับรถยนต์ของเรา มาดูกันว่า อะไรคือปัจจัยหลักๆ ที่ต้องพิจารณาก่อนไปเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ครั้งต่อไปกัน

1. พิจารณาจากประเภทของรถ

รถแต่ละรุ่นต้องการแบตเตอรี่ที่มีขนาดและกำลังไฟที่แตกต่างกัน ง่ายๆ เลยเพียงแค่เปิดคู่มือรถ ดูข้อมูลที่ระบุไว้ว่ารถของเราเหมาะกับแบตเตอรี่แบบไหน (น้ำแห้ง หรือ กึ่งแห้ง) ใช้แบตเตอรี่ขนาดกี่แอมป์ แต่ถ้าหาคู่มือรถไม่เจอ หรือไม่แน่ใจ สามารถปรึกษาช่างที่ร้านแบตเตอรี่หรือศูนย์บริการยางยนต์ดันลอป เพราะเรามีทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยแนะนำแบตเตอรี่ให้เหมาะกับรถยนต์

2. พิจารณาจากการใช้งาน

ทำไมแบตเตอรี่บางก้อนถึงเสื่อมเร็ว บางก้อนก็ทนทานใช้งานได้หลายปี สาเหตุหลักๆ มาจากเรา “เลือกแบตเตอรี่ผิดประเภท” นั่นเอง หลายคนอาจมองข้ามเรื่องนี้ คิดว่าซื้อแบบไหนก็ได้ ขอแค่ราคาถูก แต่รู้ไหมว่า แบตเตอรี่แต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เนื่องจากการใช้แบตเตอรี่ที่ไม่เหมาะกับการใช้งาน เช่น เลือกใช้แบตเตอรี่ทั่วไปสำหรับรถที่ใช้งานบ่อยๆ วิ่งไกลๆ หรือใช้ไฟเยอะ แบตเตอรี่ก็จะเสื่อมเร็วกว่าปกติ ดังนั้น สำหรับเพื่อนๆ ที่ใช้งานรถหนักๆ ควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีค่า CCA สูง หรือเลือกใช้แบตเตอรี่แห้ง เพราะจะทนทานกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป ช่วยลดโอกาสแบตเสื่อมเร็ว และใช้งานได้ยาวนานคุ้มค่ากว่า

3. พิจารณาจากงบประมาณ

แบตเตอรี่รถยนต์ราคาหลากหลาย ตั้งแต่หลักพันถึงหลักหมื่น ควรเลือกให้เหมาะกับงบประมาณและความเหมาะสม ไม่จำเป็นต้องซื้อแบตเตอรี่ที่แพงที่สุด ‍แต่สิ่งสำคัญคือ เลือกแบตเตอรี่ที่มีคุณภาพ เหมาะกับการใช้งาน และอยู่ในงบประมาณของเรา ทั้งนี้ ที่ร้านแบตเตอรี่และศูนย์บริการยางยนต์ดันลอป เรามีแบตเตอรี่หลากหลายรุ่นหลายราคาให้เลือก พร้อมทีมช่างผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยแนะนำแบตเตอรี่ที่เหมาะกับรถของคุณ หากต้องการเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งที เลือกให้ใช่ เปลี่ยนให้คุ้ม มาที่ดันลอปได้เลย!

แน่นอนว่า การดูแลรักษาแบตเตอรี่อย่างถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งาน และประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ดังนั้น เพื่อนๆ ควรหมั่นตรวจเช็คสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำ ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ และชาร์จไฟแบตเตอรี่บ้าง หากพบสัญญาณเตือนแบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ควรนำรถไปตรวจเช็คกับช่างผู้ชำนาญให้เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ใหม่โดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่จะตามมา 

นอกจากแบตเตอรี่แล้ว ยางรถยนต์ก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน อย่าลืมดูแลรักษาทั้งสองส่วนนี้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนนนะครับ ขับขี่ปลอดภัย ดูแลรักษารถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อความสุขบนท้องถนนครับ!

และสำหรับเพื่อนๆ ท่านไหนที่กำลังมองหายางรถยนต์คุณภาพดี ขอแนะนำยางรถยนต์ Dunlop ยางรถยนต์ที่ผลิตจากเทคโนโลยีชั้นสูง มั่นใจได้ในทุกสภาพถนน มีให้เลือกหลายรุ่น หลายขนาด เหมาะกับทุกสไตล์การขับขี่ของคุณอย่างแน่นอน