เคยไหม? กำลังจะเปลี่ยนยางรถยนต์ แต่ดันไม่รู้ขนาดยางรถที่เราใช้ หรือบางทีไปร้านยางแล้วพนักงานแนะนำยางมา แต่ไม่แน่ใจว่าขนาดยางนั้นเหมาะกับรถของเราหรือไม่
บทความนี้ ดันลอปจะมาแนะนำวิธีดูขนาดยางรถยนต์ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน ก็สามารถเลือกยางที่เหมาะกับรถได้อย่างมั่นใจ
วิธีดูขนาดยางรถยนต์บนแก้มยางรถด้วยตัวเอง
การสังเกตและจดจำขนาดยางรถยนต์อาจถูกมองว่าเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก แต่ในความเป็นจริงเพียงแค่จดจำตัวเลข 3 ชุดบนยางรถยนต์ของเราก็เพียงพอที่จะทำให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนแล้ว ดังนั้น เรามาเริ่มสำรวจเลขชุดเหล่านี้และความหมายของมันไปพร้อมๆ กันได้เลย
1. สังเกตุตัวเลขบนแก้มยาง
ตัวเลขบนแก้มยางเป็นเหมือนบัตรประชาชนของยาง บอกข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับยางเส้นนั้นๆ ซึ่งบนแก้มยางจะมีตัวเลขและตัวอักษรระบุข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับยางดังนี้
- ความกว้างของยาง : บอกเป็นมิลลิเมตร เช่น 215 หมายถึง ยางกว้าง 215 มม.
- อัตราส่วนความสูงแก้มยางต่อความกว้าง : บอกเป็นเปอร์เซ็นต์ เช่น 45 หมายถึง แก้มยางสูง 45% ของความกว้างยาง
- โครงสร้างยาง :
- R : ยางเรเดียล (Radial) ยางที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน
- D : ยางไดแอกนอล (Diagonal) ยางรุ่นเก่า หายาก ไม่นิยมใช้แล้ว
- เส้นผ่านศูนย์กลางล้อ : บอกเป็นนิ้ว เช่น 17 หมายถึง ยางใช้กับล้อขนาด 17 นิ้ว
- ดัชนีรับน้ำหนัก : บอกเป็นตัวเลข ตัวเลขยิ่งสูง ยางยิ่งรับน้ำหนักได้มาก
- ดัชนีความเร็ว : บอกเป็นตัวอักษร ตัวอักษรยิ่งสูง ยางยิ่งรองรับความเร็วสูงได้
ตัวอย่าง : 215/45R17 91W
- 215 = ความกว้างของยาง 215 มม.
- 45 = อัตราส่วนความสูงแก้มยางต่อความกว้าง 45%
- R = โครงสร้างยางเรเดียล
- 17 = เส้นผ่านศูนย์กลางล้อ 17 นิ้ว
- 91 = ดัชนีรับน้ำหนัก
- W = ดัชนีความเร็ว
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราด้วยว่าใช้บ่อยแค่ไหน โดยความถี่ในการเติมลมยางรถยนต์ ไม่ได้กำหนดตายตัวว่าควรเติมลมยางเมื่อไหร่ ซึ่งปกติแล้วลมยางรถยนต์จะลดลง 2-3 PSI ในหนึ่งเดือน หากเราใช้รถไม่บ่อยนัก แนะนำให้เติมลมยางเดือนละ 1-2 ครั้ง แต่เพื่อความปลอดภัย ควรหมั่นตรวจเช็กลมยางอยู่เสมอ
ตัวอย่างตารางขนาดยางรถยนต์ : DUNLOP SP SPORT MAXX060+
สามารถเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ : DUNLOP SP SPORT MAXX060+
หมายเหตุ: ตารางขนาดยางรถยนต์นี้เป็นการแสดงขนาดยางบางส่วนเท่านั้น ยังมีขนาดอื่นๆ อีกมากมาย โดยสามารถสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านยางรถยนต์ดันลอปของเราเพื่อขอคำแนะนำ
การเติมลมยางรถยนต์ที่ไม่ถูกต้อง จะส่งผลเสียอะไร
การเติมลมยางรถยนต์ที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเติมลมยางมากเกินไป หรือเติมลมยางน้อยเกินไป ล้วนส่งผลเสียต่อทั้งความปลอดภัย สมรรถนะและอายุการใช้งานของยางรถยนต์ ดังนี้
1. ผลเสียของการเติมลมยางมากเกินไป
- ยางแข็ง กระด้าง ส่งผลต่อความนุ่มนวลในการขับขี่
- ยางสึกหรอเร็ว เกิดรอยแตกลายงา
- เสี่ยงต่อยางระเบิด โดยเฉพาะเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง
- ควบคุมรถยาก เบรกไม่ค่อยอยู่
2. ผลเสียของการเติมลมยางน้อยเกินไป
- ยางแฟบ ย้วย ส่งผลต่อการทรงตัวของรถ
- ยางเสียดสีกับถนนมากขึ้น เกิดความร้อน สึกหรอเร็ว
- กินน้ำมันมากขึ้น
- เสี่ยงต่อยางรั่วและยางระเบิด
เพื่อความปลอดภัย ควรเติมลมยางรถยนต์ให้ตรงตามค่ามาตรฐานที่ระบุไว้ในคู่มือรถ
อย่างไรก็ตาม หากรถเกิดปัญหาฉุกเฉินกลางทาง ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุ รถเสีย รถยางรั่ว รถสตาร์ทไม่ติด หรืออุบัติเหตุรถชน ดันลอปเรามีบริการศูนย์บริการตัวแทนจำหน่ายดูแลในยามฉุกเฉิน ที่คอยช่วยดูแลหากเกิดปัญหารถเสียกลางทางได้อีกด้วย สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม คลิก