ยางรถยนต์ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของรถยนต์ เพราะทำหน้าที่รับน้ำหนัก ขับเคลื่อน และรับแรงกระแทกจากพื้นถนนก่อนชิ้นส่วนอื่นๆ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีโอกาสเกิดความเสียหายได้ง่าย ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่ แต่จะรู้ได้อย่างไรว่ายางรถหมดสภาพอาการมีอะไรบ้าง ดังนั้น วันนี้ดันลอปจึงมีเทคนิคดีๆ ในการสังเกตสัญญาณเตือนว่ายางรถยนต์เริ่มเสื่อมสภาพ ว่าแต่จะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกัน
ยางเสื่อมสภาพ ดูยังไง รวมจุดสังเกตที่คนมีรถต้องรู้ !
จากประสบการณ์ของผู้ขับขี่รถยนต์ พบว่าต้นเหตุจากความผิดปกติของยางรถหมดสภาพที่พบกันบ่อยครั้ง มักมาจาก 5 อาการหลัก ดังนี้
1. เติมลมยางบ่อยครั้ง ยางอ่อนเร็วผิดปกติ
หากพบว่าต้องเติมลมยางบ่อยครั้งหรือลมยางอ่อนเร็วผิดปกติ นี่คือสัญญาณหนึ่งที่บอกว่า ยางรถยนต์ ของเรามีความผิดปกติแล้วล่ะ ให้ตั้งข้อสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าอาจจะเกิดจาก “ยางรั่วซึม” หรือ รวมไปถึง “ยางรถหมดสภาพ” ก็ได้เช่นกัน เช่น ยางมีอายุการใช้งานเกิน 5 ปีแล้ว แน่นอนว่าปัจจัยหลักๆ มาจาก ยางยางเสื่อมสภาพนั่นเอง เนื่องจากยางของเราจะเสื่อมสภาพลงตามกาลเวลา ส่งผลให้โครงสร้างยางอ่อนแอลง มีโอกาสเกิดการรั่วซึมได้จากของแหลมมีคมต่างๆ บนพื้นผิวถนน นอกจากนี้ ยางที่หมดสภาพยังอาจส่งผลต่อสมรรถนะการขับขี่ได้อีกด้วย
2. การยึดเกาะถนนแย่ลง ไม่ดีเท่าที่ควร
แน่นอนว่า เมื่อยางเสื่อมสภาพ เนื้อยางจะเริ่มแข็งขึ้น กระด้างขึ้น ตามธรรมชาติของยาง รวมถึงความสึกของดอกยางที่ลดลงแรงเสียดทานระหว่างยางกับพื้นถนนลดลง โดยเฉพาะบนพื้นผิวถนนที่เปียกหรือลื่น เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เช่น รถลื่นไถล เบรกไม่อยู่ เสียการควบคุมรถ เป็นต้น
3. เสียงยางหอน ตอนรถวิ่ง
เสียงยางหอนตอนรถวิ่ง อาจเกิดจากสาเหตุได้หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือการเสื่อมสภาพ ยางรถยนต์ โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 3-5 ปี หากใช้งานมานานเกินไป เนื้อยางอาจเสื่อมสภาพหรือหมดอายุการใช้งานแล้ว ส่งผลให้ยางหอนเมื่อขับด้วยความเร็วสูง ลักษณะของเสียงหอนจากยางจะคล้ายกับเสียงเครื่องบินหรือรถโฟวิลวิ่งอยู่ข้างๆ จนบางครั้งดังเข้ามาในห้องโดยสาร
4. ดอกยางสึกไม่เท่ากัน
โดยปกติแล้วดอกยางของล้อคู่หน้ากับล้อคู่หลังจะสึกไม่เท่ากัน โดยเฉพาะยางของล้อคู่ที่เป็น “ล้อขับเคลื่อน” จะสึกหรอเร็วกว่ายางล้อคู่ที่ทำหน้าที่หมุนตาม ซึ่งการสึกหรอที่แตกต่างกันนี้ถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากพบว่าดอกยางสึกหรอไม่เท่ากันมากจนผิดปกติ เป็นบั้งๆ หรือสึกเป็นก้อนๆ ไม่สม่ำเสมอ อาการเหล่านี้กำลังบ่งชี้ถึงประสิทธิภาพ ว่า “ยางรถเสื่อมสภาพ” แนะนำว่าเราควรจะสลับยางทุกๆ 10,000 กิโลเมตร เพราะถ้าไม่สลับยาง จะมีผลต่อความสึกหรอที่ไม่เท่ากันของยางทั้ง 4 เส้นได้ หากไม่แน่ใจว่าจะสลับยางอย่างไรให้ถูกวิธี หรือต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัญหาดอกยางสึกไม่เท่ากัน สามารถปรึกษาช่างผู้ชำนาญ ร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ดันลอปช็อป ได้ทุกสาขาทั่วประเทศ
5. ยางแข็งกระด้าง
ยางแข็ง หมายถึง อาการที่หน้ายางของรถยนต์สูญเสียความยืดหยุ่นและความนุ่มนวลลง เป็นผลมาจากอายุการใช้งาน ขาดการดูแลอยู่เป็นประจำ เช่น การจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน ทำให้หน้ายางหมดอายุ เริ่มแข็ง และระยะเบรกไม่ดีเหมือนเคย อาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้ โดยเบื่องต้นเราสามารถเช็คได้ง่ายๆ เพียงแค่ สังเกตุเบื้องต้น จากรอยแตกร้าวลายงา ในร่องดอกยาง และบริเวณแก้มยาง ที่เป็นสัญญาณบอกว่า ยางเริ่มสึกหรือหมดอายุ แสดงว่าหน้ายางหมดอายุแล้ว
ทั้งหมดนี้คงเคลียร์ข้อสงสัยสำหรับใครหลายๆ คน ที่กำลังตั้งคำถามว่า ยางเสื่อมสภาพ ดูยังไง เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องยางให้ลึกซึ้ง ใส่ใจในอุปกรณ์ส่วนนี้ให้มาก อย่าละเลยการเปลี่ยนยางเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ และนอกจากนี้การดูแลรักษายางรถยนต์อย่างสม่ำเสมอก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยควรตรวจเช็กลมยางทุกสัปดาห์ ตรวจสอบสภาพดอกยางและแก้มยางเป็นประจำ หากพบสัญญาณเตือนใดๆ ควรนำรถเข้าอู่เพื่อตรวจสอบโดยช่างผู้ชำนาญ หรือต้องการความช่วยเหลือทางเทคนิคอื่นๆ ที่เกี่ยวกับยาง สามารถ ค้นหาร้านค้าตัวแทนจำหน่าย ยางดันลอป เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่และยืดอายุการใช้งานของยางรถยนต์ของเรานั่นเอง